คำสั่งเสียของอิสลามและคริสต์เกี่ยวกับสันติภาพ

คำสั่งเสียของอิสลามและคริสต์เกี่ยวกับสันติภาพ

     ทุกศาสนาแห่งฟากฟ้า และบรรดาศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าที่ถูกส่งมาเพื่อสถาปนาสันติภาพและความมั่นคงและความสงบสุขให้เกิดขึ้นบนโลก ในเส้นทางแห่งความผาสุกไพบูลย์ (ซะอาดะฮ์) และความสมบูรณ์ (กะมาล) ของมนุษยชาตินั้น ศาสดาแต่ละท่านจะปฏิบัติภารกิจ (ริซาละฮ์) ที่สำคัญนี้ในแต่ละยุคสมัยของตน ขั้นที่สมบูรณ์ที่สุดของการปฏิบัติภารกิจนี้จะเกิดขึ้นพร้อมกับการมาของศาสดาสุดท้าย คือท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) และการบรรลุสู่ความสมบูรณ์ของศาสนาอิสลาม

     สันติภาพที่อิสลามพยายามจะสถาปนาให้เกิดขึ้นนั้น คือสิ่งที่จะนำมาซึ่งเกียรติศักดิ์ศรีที่ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน และมีหลักประกันที่สมบูรณ์ทางด้านคุณธรรม สันติภาพที่จะช่วยรักษาศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของชาวมุสลิมนั้น จะครอบคลุมถึงทุกด้านของการดำเนินชีวิตของพวกเขา และจะการให้ความเคารพต่อสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง และจะวางอยู่บนพื้นฐานของเสรีภาพและการเลือกอย่างมีจิตสำนึกของมนุษย์

     ปัจจุบันมนุษยชาติที่อยู่ในทั่วทุกมุมของโลกใบนี้ ต้องเผชิญกับความรุนแรงและสงครามจากฝ่ายตรงข้ามด้วยเหตุผลและข้ออ้างต่างๆ นานา ต่างพยายามหาทางแก้ไข และช่องทางหนึ่งที่จะหลุดพ้นจากสภาพดังกล่าวนี้ ในขณะที่บรรดาศาสดาแห่งพระผู้เป็นเจ้าได้เรียกร้องเชิญชวนพวกเราไปสู่สันติภาพ การประนีประนอมและการหลีกเลี่ยงจากความรุนแรงในทุกรูปแบบ

     ในเนื้อหาต่อไปนี้เราจะชี้ถึงส่วนหนึ่งจากคำแนะนำสั่งสอนของศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนี้

       พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงจำเริญ ผู้ทรงสูงส่ง ทรงตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานว่า

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا ادْخُلُوا فِي السِّلْمِ كَافَّةً وَلَا تَتَّبِعُوا خُطُوَاتِ الشَّيْطَانِ إِنَّهُ لَكُمْ عَدُوٌّ مُّبِينٌ

"โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงเข้าอยู่ในความสันติโดยทั่วกันทั้งหมด และจงอย่าปฏิบัติตามการย่างก้าวต่างๆ ของมาร (ชัยฏอน) แท้จริงมันคือศัตรูที่ชัดแจ้งของพวกเจ้า" (1)

      ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ถูกแต่งตั้งมาเพื่อการแผ่ขยายสันติภาพ ความสงบสุขและความเมตตา แน่นอนยิ่งที่ว่า ศาสนาที่วางพื้นฐานอยู่บนความเมตตานั้น ศาสดาก็จะต้องเป็นศาสดาผู้นำสาส์นแห่งความเมตตาและสันติภาพมาด้วยเช่นกัน ดังที่ในคัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวว่า

وَمَا أَرْسَلْنَاكَ إِلَّا رَحْمَةً لِّلْعَالَمِينَ

“และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่สากลโลก” (2)

     เช่นเดียวกันนี้ ในอีกโองการหนึ่งกล่าวว่า

وَإِن جَنَحُوا لِلسَّلْمِ فَاجْنَحْ لَهَا وَتَوَكَّلْ عَلَى اللَّهِ إِنَّهُ هُوَ السَّمِيعُ الْعَلِيمُ

“และหากพวกเขา (บรรดาศัตรู) โอนอ่อนมาเพื่อการประนีประนอมแล้ว เจ้าก็จงโอนอ่อนตามเพื่อการนั้นเถิด และจงมอบหมายต่ออัลลอฮ์ แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงได้ยินอีกทั้งทรงรอบรู้” (3)

     ท่านอิมามอะลี (อ.) ซึ่งเป็นสานุศิษย์จากสำนักคิดของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ก็ได้กล่าวถึงความสำคัญของสันติภาพเช่นกันว่า

 وَجَدتُ المُسالَمَةَ مالَم يَكُنْ وَهنٌ لِلإسلامِ أنجَعَ مِنَ القِتالِ

"ฉันพบว่าการสร้างสันติภาพนั้น ให้คุณประโยชน์มากกว่าการทำศึกสงคราม ตราบที่มันยังไม่ก่อให้เกิดความอ่อนแอต่ออิสลาม” (4)

     นอกจากนี้ท่านยังได้กล่าวอีกว่า

و لاتَدْفَعَنَّ صُلْحًا دَعَاكَ إلَيْهِ عَدُوُّكَ و لِلّهِ فِيْهِ رِضىً ؛ فَإنَّ فِي الصُّلْحِ دَعَةً لِجُنُوْدِكَ وَ رَاحَةً مِنْ هُمُوْمِكَ وَ أمْنًا لِبِلادِكَ

“และท่านจงอย่าปฏิเสธสันติภาพ หากศัตรูของท่านเรียกร้องเชิญชวนท่านไปสู่มัน และความพึงพอพระทัยของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ในสิ่งนั้น ทั้งนี้เนื่องจากว่าสันติภาพนั้นคือบ่อเกิดของความสงบสุขของบรรดาทหารของท่าน และเป็นความสะดวกสบายสำหรับความทุกข์กังวลของท่าน และเป็นความปลอดภัยสำหรับแผ่นดินของท่าน” (5)

    ในหนังสือ “ตุหะฟุลอุกูล” ในหมวดคำพูดของบรรดาผู้นำทางศาสนา มีคำพูดที่สวยงามสองประโยคถูกอ้างมาจากท่านศาสดาอีซา (อ.) บุตรของมัรยัม ซึ่งกล่าวว่า "ความโชคดีเป็นของผู้ที่แสดงความรักความเมตตาต่อกันและกัน พวกเหล่านั้นคือผู้ที่จะได้รับความเมตตา (จากพระผู้เป็นเจ้า) ในวันชาติหน้า"

    นอกจากนี้ท่านยังได้กล่าวอีกว่า

طوبى لِلمُصلِحينَ بَينَ النّاسِ اُولئِكَ هُمُ المُقَرَّبونَ يَومَ القيامَةِ

"ความโชคดีจงเป็นของผู้ที่สร้างสันติภาพ (และการประนีประนอม) ในระหว่างเพื่อนมนุษย์ พวกเขาเหล่านั้นคือผู้ที่อยู่ใกล้ชิด (พระผู้เป็นเจ้า) ในวันชาติหน้า!"


แหล่งที่มา :

[1] อัลกุรอานบทอัลบากอดราะฮ์ โองการที่ 208

[2] อัลกุรอานบทอัลอันบิยาอ์ โองการที่ 107

[3] อัลกุรอานบทอัลอันฟาล โองการที่ 61

[4] ฆุร่อรุลฮิกัม วะดุร่อรุลกิลัม, ฮะดีษที่ 10138

[5] นะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์, จดหมายฉบับที่ 53


บทความ : เชคมูฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2017 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้อิสลามสำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่