เราสามารถพบความเชื่อมโยงที่ไม่อาจแยกจากกันได้ระหว่างขบวนการอาชูรอของท่านอิมามฮุเซน (อ.) และการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ในความเป็นจริง "การปฏิวัติของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)" คือการสืบสานและการบรรลุเป้าหมายของ "การยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามฮุเซน (อ.)" ในระดับโลก
"เราสามารถพบความเชื่อมโยงที่ไม่อาจแยกจากกันได้ระหว่างขบวนการอาชูรอของท่านอิมามฮุเซน (อ.) และการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ในความเป็นจริง "การปฏิวัติของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)" คือการสืบสานและการบรรลุเป้าหมายของ "การยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามฮุเซน (อ.)" ในระดับโลก "การยืนหยัดต่อสู้แห่งอาชูรอ" ยังเป็นการสนับสนุนและการวางรากฐานสู่ "การยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)" อีกด้วย เหตุผลที่สำคัญที่สุดสำหรับบทสรุปนี้คือความเหมือนกันและการประสานสอดคล้องกันของเป้าหมาย ข้อความ และแผนงานต่างๆ ของการยืนหยัดต่อสู้ทั้งสองนี้ ประเด็นนี้เองที่ทำให้บรรดามะอ์ซูม (อ.) ได้กล่าวถึงท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ผู้ถูกสัญญาไว้ เคียงคู่กับท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในโอกาสต่างๆ ....
มีความเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างขบวนการอาชูรอของท่านอิมามฮุเซน (อ.) และการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ในลักษณะที่เมื่อทำการค้นคว้าและศึกษาเกี่ยวกับแต่ละเรื่องราวจากทั้งสอง เราจะสัมผัสถึงการมีอยู่ของเรื่องราวของอีกด้านหนึ่งด้วย เมื่อใดก็ตามที่มีการเอ่ยถึงท่านอิมามฮุเซน (อ.) ชื่อของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ก็จะปรากฏขึ้นมาเช่นกัน และทุกที่ที่มีการกล่าวถึงการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) และเป้าหมายของการยืนหยัดต่อสู้ของท่าน ความคิดทั้งหลายก็จะถูกดึงดูดเข้าหาการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) หลานชายผู้มีเกียรติของท่าน
คำถามก็คือว่าอะไรทำให้เกิดความเชื่อมโยงนี้? อะไรทำให้เกิดความเชื่อมโยงพิเศษระหว่างอิมามทั้งสองท่านนี้และแผนงานของท่านทั้งสอง? และอะไรคือความลับในการเชื่อมโยงนี้?
ก่อนที่จะตอบคำถามนี้ เพื่อให้คำถามเป็นรูปธรรมและสัมผัสได้มากยิ่งขึ้น เราได้กล่าวถึงความเชื่อมโยงบางส่วนเหล่านี้ :
- ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) คือหลานชายของท่านอิมามฮุเซน (อ.) :
ในหะดีษจำนวนมากได้พูดถึงท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) เป็นบุตรชายคนที่เก้าของท่านอิมามฮุเซน (อ.) และในหะดีษส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) นั้นจะมาจากท่านศาสดา (ซ็อลฯ) และจะมีการกล่าวถึงท่านด้วยรูปวลีต่างๆ อย่างเช่น "จากเชื้อสายของฮุเซนลูกชายของฉัน", "จากลูกหลานของลูกชายของฉันคนนี้" และ "ลูกคนที่เก้าของฮุเซนลูกชายของฉัน" ตัวอย่างเช่นหะดีษบทนี้จากท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ที่กล่าวว่า :
فَاعْلَمُوا أَنَّ اللَّهَ تَعَالَى يَبْعَثُ فِي أُمَّتِي سُلْطَاناً عَادِلًا وَ إِمَاماً قَاسِطاً يَمْلَأُ الْأَرْضَ قِسْطاً وَ عَدْلًا كَمَا مُلِئَتْ جَوْراً وَ ظُلْماً، وَ هُوَ التَّاسِعُ مِنْ وُلْدِ وَلَدِيَ الْحُسَيْن
"ท่านทั้งหลายจงรู้เถิดว่า อัลลอฮ์ ผู้ทรงสูงส่ง จะทรงส่งผู้ปกครองที่มีความยุติธรรมและอิมามผู้เที่ยงธรรมมายังประชาชาติของฉัน เพื่อที่เขาจะทำให้แผ่นดินเต็มไปด้วยเที่ยงธรรมและความยุติธรรม และเขาจะเป็นหลานคนที่เก้าจากฮุเซนลูกชายของฉัน” (1)
- วันอาชูรอ คือวันที่ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) จะปรากฏตัว :
ท่านอิมามบากิร (อ.) กล่าวว่า :
كَأَنِّي بِالْقَائِمِ يَوْمَ عَاشُورَاءَ يَوْمَ السَّبْتِ قَائِماً بَيْنَ الرُّكْنِ وَ الْمَقَامِ بَيْنَ يَدَيْهِ جَبْرَئِيلُ يُنَادِي الْبَيْعَةَ لِلَّهِ فَيَمْلَأُهَا عَدْلًا كَمَا مُلِئَتْ ظُلْماً وَ جَوْرًا
"ประหนึ่งว่าฉันเห็นกออิม (มะฮ์ดี) ยืนอยู่ (เคียงข้างกะอ์บะฮ์) ระหว่างรุกน์และ มะกอม ในวันอาชูรอ ในวันเสาร์ และญีบรออีลจะป่าวประกาศว่า : ท่านทั้งหลายจงให้สัตยาบันเพื่ออัลลอฮ์ แล้วเขาจะเติมเต็มแผ่นดินโลกด้วยความยุติธรรม เช่นเดียวกับที่มันเต็มไปด้วยความอธรรมและการกดขี่" (2)
- การกล่าวถึงอิมามฮุเซน (อ.) คือคำพูดแรกของอิมามมะฮ์ดี (อ.) หลังจากการปรากฏตัวของท่าน :
ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) จะแนะนำตัวเองในฐานะผู้สืบเชื้อสายขอท่านอิมามฮุเซน (อ.) และผู้ล้างแค้นบรรดาฆาตกรของท่านในคำพูดแรกของท่านหลังจากการปรากฏตัวของท่าน โดยท่านจะกล่าวว่า :
ألَا یَا أَهلَ العَالَم أَنَا الإِمَامُ القَائِمُ. ألَا یَا أَهلَ العَالَم أنَا الصَمصَامُ المُنتَقِمُ. ألَا یَا أَهلَ العَالَم إِنَّ جَدِّی الحُسَین قَتَلُوهُ عَطشَانَاً. ألَا یَا أَهلَ العَالَم إنّ جَدِّی الحُسَین طَرَحُوهُ عُریَانَاً. ألَا یَا أَهلَ العَالَم إِنّ جَدِّی الحُسَین سَحَقُوهُ عُدوَانَاً
“โอ้ชาวโลกเอ๋ย! พึงรู้เถิดว่า ฉันคืออิมามอัลกออิม (ผู้ยืนหยัดต่อสู้) โอ้ชาวโลกเอ๋ย! พึงรู้เถิดว่าฉันคือดาบที่จะมาแก้แค้น โอ้ชาวโลกเอ๋ย! พึงรู้เถิดว่า แท้จริงฮุเซนปู่ของฉัน พวกเขาสังหารท่านในสภาพที่กระหายน้ำ โอ้ชาวโลกเอ๋ย! พึงรู้เถิดว่า แท้จริงฮุเซนปู่ของฉัน พวกเขาทอดทิ้งท่านไว้ในสภาพเปลือยเปล่า โอ้ชาวโลกเอ๋ย! พึงรู้เถิดว่า แท้จริงฮุเซนปู่ของฉัน พวกเขาบดขยี้ (เรือนร่างของท่าน) ด้วยความเป็นศัตรู” (3)
- อิมามมะฮ์ดี (อ.) ผู้ล้างแค้นให้เลือดของอิมามฮุเซน (อ.) :
ท่านอิมามบากิร (อ.) กล่าวว่า :
لَمَّا قُتِلَ جَدِّى الحُسَينُ(عليه السّلام) ضَجَّت المَلَائِكَةُ إِلَى اللَّهِ بِالبُكَاءِ، فَأَوحَى اللَّهُ إِلَيهِم قِرُّوا مَلَائِكَتِى وَ عِزَّتِي وَ جَلَالِي لَأَنتَقِمَنَّ مِنهُم وَ لَو بَعدَ حِينٍ، ثُمَّ كَشَفَ اللَّهُ عَن الاَئِمَّةِ مِن وُلدِ الحُسَينِ فَإذَا أَحَدُهُم قائِم يُصَلِّى فَقَالَ اللَّهُ عَزَّ وَ جَلَّ: بِذَلِكَ القَائِم أَنتَقِمُ مِنهُم
"เมื่อท่านฮุเซน (อ.) ปู่ทวดของฉันถูกฆ่า บรรดาทูตสวรรค์ (มะลาอิกะฮ์) ก็ร้องไห้และคร่ำครวญต่ออัลลอฮ์ ดังนั้นอัลลอฮ์จึงทรงวิวรณ์ (วะห์ยู) ไปยังพวกเขาว่า : โอ้ ทูตสวรรค์ทั้งหลายของข้า! จงสงบเถิด ข้าสาบานด้วยเกียรติและความเกรียงไกรของข้า ข้าจะแก้แค้นจากพวกเขา แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปก็ตาม แล้วอัลลอฮ์ก็ทรงเปิดเผยให้พวกเขาเห็นบรรดาอิมาม จากลูกหลานของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ขณะที่คนหนึ่งจากพวกเขากำลังยืนนมาซอยู่ อัลลอฮ์จึงทรงตรัสว่า : ข้าจะแก้แค้นพวกเขา [บรรดาผู้สังหารฮุเซน (อ.)] โดยผ่าน "กออิม" (ผู้ยืน) ผู้นี้ “ (4)
นอกจากนี้ ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า : "คำขวัญของบรรดาสหายผู้ช่วยเหลือของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) คือ «يَا لَثَارَاتِ الْحُسَيْن» "โอ้ ผู้ล้างแค้นให้กับเลือดของฮุเซน)" (5)
และยังมีกรณีอื่นๆ ของความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์ในลักษณะเหล่านี้ซึ่งการกล่าวถึงมันทั้งหมดจะทำให้เกิดความเยิ่นเยื้อสำหรับบทความสั้นๆ นี้
ความลับของความสัมพันธ์นี้!
ตอนนี้เราจะตอบคำถามของเราที่ว่าความลับของความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์นี้คืออะไร? ความลับของการเชื่อมโยงนี้ก็คือ ในความเป็นจริง การปฏิวัติของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) เป็นการสืบสานและความต่อเนื่องของการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) การยืนหยัดต่อสู้แห่งอาชูรอนั้น เป็นตัวสนับสนุนและสื่อในการเตรียมพื้นฐานสำหรับการยืนหยัดต่อของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) นั้น คือสิ่งที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของ อาชูรอในระดับโลก ในความเป็นจริงแล้วอาชูรอนั้นเป็นประตูไปสู่การรอคอยการปรากฏตัวของผู้ช่วยให้รอด (มุนญี) ที่ถูกสัญญาไว้ และการรอคอยการปรากฏตัวของท่านอิมามมะอ.ดี (อ.) คือการสำแดงความปรารถนาต่างๆ ของบรรดาผู้ที่ยึดมั่นในแนวทางของท่านอิมามฮูเซน (อ.)
เหตุผลที่สำคัญที่สุดสำหรับบทสรุปนี้คือความเหมือนกันและการประสานสอดคล้องกันของเป้าหมาย ข้อความ และแผนงานต่างๆ ของการยืนหยัดต่อสู้ทั้งสองนี้ ขบวนการเคลื่อนไหวต่อสู้ทั้งสองนี้เป็นการต่อสู้ที่หนักหน่วงกับการกดขี่ การทุจริตและการก่อความเสียหายในหน้าแผ่นดิน กล่าวคือเช่นเดียวกับที่ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ลุกขึ้นต่อต้านการกดขี่ด้วยกำลังและการดำรงอยู่ทั้งหมดของท่าน (6) และสร้างจุดเปลี่ยนในการต่อสู้ระหว่างสัจธรรมกับความเท็จ ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ก็เดินตามรอยเท้าของท่านเช่นกัน และจะต่อสู้อย่างดุเดือดกับบรรดาผู้กดขี่จนกระทั่งท่านจะทำให้ความยุติธรรมปกคลุมไปทั่วโลก (7)
ในบรรดาแผนงานหลักของการยืนหยัดต่อสู้ทั้งสองนี้ เราสามารถกล่าวถึงการปฏิรูปสังคม การฟื้นฟูคำสอนทางศาสนา ความรอดพ้นของผู้อ่อนแอและผู้ถูกกดขี่ การปฏิเสธการร่วมทางกับบรรดาผู้กดขี่และผู้บ่อนทำลายในแผ่นดิน และการขจัดอุปสรรคขวากหนามต่อการเติบโตและการพัฒนาการไปสู่จุดสมบูรณ์สูงสุดของมนุษย์ (8)
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็เพื่อมุ่งเน้นความสนใจไปยังสองประเด็นต่อไปนี้ คือ ประการแรก : แนวทางของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ก็คือแนวทางเดียวกับท่านอิมามฮุเซน (อ.) ปู่ทวดของท่าน และเป้าหมายของท่านก็คือเป้าหมายเดียวกัน ประการที่สอง : การย่างก้าวไปบนเส้นทางนี้และการบรรลุสู่สังคมในอุดมคติในยุคแห่งการปรากฎตัวของท่านอิมามะฮ์ดี (อ.) ไม่อาจเป็นจริงขึ้นได้โดยปราศจากการให้ความสนใจและการปฏิบัติตามแนวทางการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามฮุเซน (อ.)
เนื่องจากว่าการให้ความสนใจต่อการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) จะปลุกจิตวิญญาณที่หลับใหลให้ตื่นขึ้น และเป็นต้นแบบของความเป็นอิสรชน การตระหนักรู้ การเสียสละ การยืนหยัดอย่างมั่นคง ฯลฯ สำหรับบรรดาผู้รอคอย ผู้แสวงหาสัจธรรมและความยุติธรรมทั้งมวล การยืนหยัดต่อสู้นี้ด้วยกับส่งผลกระทบต่างๆ ดังกล่าว จะสร้างพื้นฐานและเวทีต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการยืนหยัดต่อสู้ระดับโลกของท่านมะฮ์ดี (อ.) และท่านอิมามมะฮ์ดี (อ) ผู้ถูกสัญญาไว้ จะทำให้สัจธรรมและความยุติธรรมดำรงขึ้นทั่วโลกด้วยอาศัยพื้นฐานต่างๆ ที่ถูกจัดเตรียมขึ้นเหล่านี้
เชิงอรรถ :
1. กิตาบ ซะลีม บิน ก็อยซ์ อัล ฮิลาลี, เล่ม 2, หน้า 958
2. อัล ฆ็อยบะฮ์, เชคฏูซี, หน้า 453
3. อิลซามุลนาซิบ ฟี อิษบาต อัลฮุจญะติลฆออิบ (อ.), อะลี ยัซดี ฮาอิรี, เล่ม 2, หน่า 233
4. ดะลาอิลุลอิมามะฮ์, มุฮัมมัด บิน ญะรีร อามิลี ฏอบะรี, หน้า 452
5. บิฮารุลอันวาร, อัลลามะฮ์มัจญ์ลิซี, เล่ม 52, หน้า 308
6. ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้อธิบายถึงเป้าหมายประการหนึ่งในการยืนหยัดต่อสู้ของท่านในจดหมายที่เขียนถึงบรรดาผู้อาวุโสของเมืองกูฟะฮ์ เป็นการต่อสู้กับผู้ปกครองที่กดขี่และก่อการละเมิด โดยท่านกล่าวว่า :
مَنْ رَأَى سُلْطَاناً جَائِراً ... يَعْمَلُ فِی عِبَادِ اللَّهِ بِالْإِثْمِ وَ الْعُدْوَانِ ثُمَّ لَمْ يُغَيِّرْ بِقَوْلٍ وَ لَا فِعْلٍ كَانَ حَقِيقاً عَلَى اللَّهِ أَنْ يُدْخِلَهُ مَدْخَلَهُ
“ผู้ใดเห็นผู้ปกครองที่อธรรม...กระทำบาปและก่อการละเมิดต่อปวงบ่าวของอัลลอฮ์ แล้วไม่ทำการเปลี่ยนแปลงด้วยคำพูดหรือการกระทำของเขา แน่นอนว่าอัลลอฮ์จะทรงทำให้เขาเข้าไปอยู่ในเดียวกันกับเขา" (บิฮารุลอันวาร, อัลลามะฮ์มัจญ์ลิซี, เล่ม 44, หน้า 381; อัลกามิล ฟิตตารีค, , อิบนุอะซีร, เล่ม 4, หน้า 48)
7. ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้กล่าวเกี่ยวกับการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ว่า :
يَمْلَؤُهَا (الأرض) عَدْلًا وَ قِسْطاً كَمَا مُلِئَتْ جَوْراً وَ ظُلْماً
" ... เขาจะทำให้แผ่นดินเต็มไปด้วยความยุติธรรมและความเที่ยงธรรม เช่นเดียวกับที่มันได้เต็มไปด้วยความอธรรมและการกดขี่” (กะมาลุดดีน วะ ตะมามุนนิอ์มะฮ์, เชคซอดูก, เล่ม 1, หน้า 286)
8. นอกเหนือจากที่กล่าวถึงในเชิงอรรถที่ 6 และ 7 แล้ว ยังสามารถชี้ถึงคำพูดนี้ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ที่ท่านกล่าวว่า :
إِنَّما خَرَجْتُ لِطَلَبِ الاصْلاحِ فى أُمَّةِ جَدّى، أُريدُ أَنْ آمُرَ بِالْمَعْرُوفِ وَ أَنْهى عَنِ الْمُنْكَرِ وَ أَسيرَ بِسيرَةِ جَدّى وَ أَبى عَلِىِّ بْنِ أَبيطالِب
“แท้จริงฉันได้ยืนหยัดขึ้นเพื่อแสวงหาการปฏิรูปในหมู่ประชาชาติของตาของฉัน ฉันต้องการกำชับความดีและห้ามปรามความชั่ว และฉัน (ปรารถนาที่จะ)ดำเนินตามแนวทางของตาของฉันและอะลี บิน อบีฏอลิบ บิดาของฉัน” (มุซีรุลอะห์ซาน, อิบนุ นะมา ฮิลลี, หน้า 4)
แปลและเรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่