อัรบะอีน ค่ายชุมนุมแห่งความรักของผู้ที่ถวิลหาความรักใต้ร่มธงของฮุเซน บุตรของอะลี (อ.)
Powered by OrdaSoft!
No result.
อัรบะอีน ค่ายชุมนุมแห่งความรักของผู้ที่ถวิลหาความรักใต้ร่มธงของฮุเซน บุตรของอะลี (อ.)

การซิยารัตท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในวันอัรบะอีน (ครบรอบสี่สิบวันของการเป็นชะฮีดของท่านอิมามฮุเซน) ตามคำแนะนำสั่งเสียของอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของผู้ศรัทธา และทุก ๆ ปีชาวชีอะฮ์นับล้านจากทั่วทุกมุมโลกจะไปรวมตัวกันในการชุมนุมที่ยิ่งใหญ่นี้ และบรรดาผู้ที่มีความรักผูกพันต่อท่านอิมามฮุเซน (อ.) และปรารถนาที่จะไปทำการซิยารัตท่านโดยการเดินเท้าก็จะนำพาตัวเองไปให้ถึงผู้เป็นที่รักของพวกเขา

      ในช่วงเวลานี้กลุ่มคนผู้มีความปรารถนาจะไปซิยารัตท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) ต่างกำลังเตรียมพร้อมตนสำหรับการเดินทางไปซิยารัตในวันอัรบะอีน และกำลังนับถอยหลังนาทีที่จะเดินเท้าในเส้นทางจากเมืองนะญัฟถึงเมืองกัรบาลา เพื่อที่จะนำพาตัวเองเข้าร่วมในท่ามกลางมวลมหาประชาชนที่มีความรักและผู้มาเยือนท่านอบาอับดิลลาฮ์ (อ.)

      บางคนเพื่อที่จะสร้างความเคลือบแคลงให้เกิดขึ้นกับการชุมนุมที่ยิ่งใหญ่ของชาวชีอะฮ์นี้ พวกเขาพยายามที่จะแสร้งกล่าวว่า ที่มาเกี่ยวกับการซิยารัตของอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) และบรรดาเชลยศึกแห่งกัรบะลาในวันอัรบะอีนนั้นยังเป็นที่ขัดแย้งกัน ดังนั้นการเดินทางไปซิยารัตท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในวันอัรบะอีนก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องชอบธรรมเช่นกัน

อะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ย้อนกลับมายังกัรบะลาในช่วงอัรบะอีนจริงหรือไม่?

      เชคมุฟีดถือว่าวันที่ 20 ของเดือนซอฟัร เป็นวันครบรอบการเดินทางไปซิยารัตหลุมศพท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในแผ่นดินกัรบาลาของท่านญาบิร บินอับดุลลอฮ์ อัลอันซอรี  และกล่าวว่า ท่านเป็นคนแรกที่ไปเยือน (ซิยารัต) ท่านอิมามฮุเซน (อ.) (1)

      ซัยยิดอิบนุฏอวูซได้รายงานไว้ในหนังสือ "อัลลุฮูฟ" ว่า : เมื่ออะฮ์ลุลบัยติ์และเครือญาติของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ออกจากซีเรียเพื่อกลับสู่นครมะดีนะฮ์ และระหว่างทางได้ไปถึงยังดินแดนอิรัก พวกเขาได้กล่าวกับมัคคุเทศก์ของคาราวานว่า : จงพาเราไปในเส้นทางที่ผ่านกัรบะลา (พวกเขาจึงได้พาคาราวานไปตามเส้นทางของกัรบะลา) เมื่อพวกท่านไปถึงสถานที่ที่ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ถูกสังหาร พวกท่านได้พบท่านญาบีร บินอับดุลลอฮ์ อัลอันซอรี และคนกลุ่มหนึ่งจากบนีฮาชิม และผู้คนจากวงศ์ญาติของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้มารวมตัวกันในเวลาเดียวกันในสถานที่แห่งนั้น ซึ่งพวกเขาได้มาซิยารัตหลุมฝังศพของท่านอิมามฮุเซน (อ.) พวกเขาต่างพากันร่ำไห้ ฟูมฟาย ตบตีใบหน้าและคร่ำครวญโดยที่ทำให้หัวใจทั้งหลายต้องร้อนรุ่ม บรรดาสตรีซึ่งอยู่ในพื้นที่โดยรอบนั้นก็ได้เข้ามาสมทบและร่วมไว้อาลัยแด่ท่านอิมามฮุเซน (อ.) เป็นเวลาหลายวัน (2)

      ในบางแหล่งอ้างอิงก็มีการรายงานไว้เช่นกันว่า ศีรษะของท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.) ถูกนำกลับไปที่กัรบะลา โดยท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) และได้ถูกนำไปรวมกับเรือนร่างของท่านอิมาม (อ.) ในวันอัรบะอีน (3) บนพื้นฐานของคำกล่าวนี้ ซึ่งมีบันทึกไว้ในหลายแหล่งอ้างอิง วันอัรบะอีนในปี ฮ.ศ.61 สามารถที่จะเป็นช่วงเวลาที่บรรดาเชลยศึกแห่งกัรบะลาย้อนกลับมาซิยารัตท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้

      มัรฮูมมุลลาฮุเซน วาอิศ กาชิฟี ก็ได้อ้างคำพูดจากคอรัซมีว่า : ท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) ได้รับเอาศีรษะของบิดาผู้มีเกียรติของท่านพร้อมด้วยศีรษะของบรรดาชะฮีดคนอื่น ๆ และเดินทางไปยังกัรบาลา และในวันที่ 20 ของเดือนซอฟัรได้นำศีรษะของท่านไปรวมเข้ากับเรือนร่างอันบริสุทธิ์ของท่าน (4)

       เชคบาฮาอีกล่าวว่า : วันที่ 19 ของเดือนซอฟัร (5) คือวันซิยารัตอัรบะอีนของ ท่านอบาอับดิลลาฮ์ อัลฮุซัยน์ (อ.) วันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 40 หลังจากการเป็นชะฮีดของท่านอิมาม เป็นวันที่ท่านญาบิร บินอับดุลลอฮ์ อัลอันซอรี เดินทางมาเพื่อทำการซิยารัตหลุมศพของท่านอิมาม และในวันเดียวกันนั้นเองที่อะฮ์ลุบัยติ์ของท่านอิมามได้เดินทางจากซีเรียมาถึงกัรบะลา ขณะที่พวกท่านมีเป้าหมายที่จะกลับสู่นครมะดีนะฮ์ (6)

       ซัยยิดกอฎี ฏอบาฏอบาอี ก็ได้มีงานวิจัยโดยละเอียดเพื่อพิสูจน์การซิยารัตอัรบะอีนโดยอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ในปีแรกของการเป็นชะฮีดของท่านอิมามฮุเซน (อ. (7)

       เมื่อนำเอาริวายะฮ์ (คำรายงาน) เกี่ยวกับการนำศีรษะของท่านอิมามฮุเซน (อ.) มาฝังรวมกับเรือนร่างในวันอัรบะอีน การซิยารัตของท่านญาบิรในกัรบะลาและการพบปะกับอะฮ์ลุลบัยติ์ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) มาพิจารณาร่วมกัน สามารถที่จะยอมรับได้ว่าซิยารัตอัรบะอีนเกิดขึ้นในปี ฮ.ศ.61

       อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้การย้อนกลับมาของบรรดาเชลยในอัรบะอีนปีแรกมีความแน่นอนมากยิ่งขึ้นก็คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการมาถึงเมืองชาม (ซีเรีย) ของบรรดาเชลยแห่งกัรบาลา ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ยะซีดได้จินตนาการไว้ ด้วยกับคุฏบะฮ์ (สุนทรพจน์) ต่าง ๆ ของท่านหญิงซัยนับ (อ.) และท่านอิมามซัดญาด (อ.) เขาได้พบว่าตัวเองสิ้นหวังและไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องส่งบรรดาเชลยกลับไปยังนครมะดีนะฮ์ และบรรดาอะฮ์ลุลบัยติ์ก็ได้เดินทางย้อนกลับไปในเส้นทางกัรบะลาตามคำขอของตนและได้ทำการซิยารัตหลุมศพของท่านอิมามฮุเซน (อ.) (8)

ซุนนะฮ์ของการซิยารัตอัรบะอีน

      สิ่งที่สำคัญยิ่งสำหรับเราในซุนนะฮ์ของการซิยารัตอัรบะอีน นั้นก็คือมีริวายะฮ์ (คำรายงาน) ต่าง ๆ ที่เน้นย้ำเกี่ยวกับซุนนะฮ์นี้ และตามคำพูดของท่านอิมามฮะซัน อัสการี (อ.) การซิยารัตอัรบะอีนถือเป็นหนึ่งในคุณลักษณะของผู้ศรัทธา (มุอ์มิน) โดยท่านได้กล่าวว่า :

 عَلَامَاتُ الْمُؤْمِنِ خَمْسٌ: صَلَاةُ إِحْدَى وَ الْخَمْسِينَ وَ زِيَارَةُ الْأَرْبَعِينَ وَ التَّخَتُّمُ بِالْيَمِينِ وَ تَعْفِيرُ الْجَبِينِ وَ الْجَهْرُ بِبِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيم

"เครื่องหมายของผู้ศรัทธามี 5 ประการ คือ การนมาซ 51 ร่อกาอัต (นมาซวาญิบและมุสตะฮับในแต่ละวัน) การซิยาเราะฮ์อัรบะอีน การสวมใส่แหวนในมือขวา การวางหน้าผากลงบนดิน และการกล่าว บิสมิลลาฮิรเราะห์มานิรร่อฮีม ด้วยเสียงดัง (ในขณะนมาซ)” (9)

      อัรบะอีนเป็นการสำแดงรักและความกระตือรือร้นของชาวชีอะฮ์และการชุมนุมประจำปีที่อะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ได้กำหนดไว้เป็นแบบแผน (ซุนนะฮ์) อัรบะอีนเป็นการผสมผสานระหว่างความปรารถนาอันแรงกล้าและความสงบมั่นในการเดินทางไปซิยารัตและการเชื่อมสัมพันธ์กับผู้เป็นที่รัก เนื่องจากท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า :

مَنْ‏ أَتَاهُ‏ شَوْقاً إِلَيْهِ‏ كَانَ مِنْ عِبَادِ اللَّهِ الْمُكْرَمِینَ وَ كَانَ تَحْتَ لِوَاءِ الْحُسَيْنِ بْنِ عَلِيٍّ حَتَّى يُدْخِلَهُمَا اللَّهُ الْجَنَّةَ؛

"ใครก็ตามที่มายังท่าน (อิมามฮุเซน) ด้วยความถวิลหา เขาจะเป็นส่วนหนึ่งจากปวงบ่าวผู้มีเกียรติของอัลลอฮ์ และจะอยู่ภายใต้ร่มธงของฮุเซน บุตรของอะลี (อ.) จนกระทั่งอัลลอฮ์จะทรงนำบุคคลทั้งสองเข้าสู่สวรรค์" (10)

      ในอีกริวายะฮ์ (คำรายงาน) หนึ่ง ที่ได้รับรายงานมาจากท่านว่า :

مَنْ أَتَی الْحُسَینَ(ع) مَاشِیاً کتَبَ اللَّهُ لَهُ بِکلِّ خُطْوَةٍ أَلْفَ حَسَنَةٍ وَ مَحَا عَنْهُ أَلْفَ سَیئَةٍ وَ رَفَعَ لَهُ أَلْفَ دَرَجَةٍ

"ใครก็ตามที่มาเยือน (หลุมฝังศพ) ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) โดยการเดินเท้า อัลลอฮ์จะทรงบันทึกสำหรับเขาในทุกย่างก้าวหนึ่งพันความดีและจะทรงลบล้างหนึ่งพันบาปให้เขา และจะทรงยกหนึ่งพันฐานันดรแก่เขา" (11)

      อัรบาอีนได้เริ่มต้นขึ้นด้วยการซิยารัตของอะฮ์ลุลบัยติ์ในกัรบะลา และด้วยการกำชับแนะนำของท่านอิมามอัสกะรี (อ.) ได้กลายเป็นการรวมตัวที่ยิ่งใหญ่ของชาวชีอะฮ์ ชาวชีอะฮ์จำนวนหลายล้านคนในค่ายแห่งความรักแห่งนี้ จะนำพาตัวเองไปให้ถึงอิมามของพวกเขา เพื่อเข้าร่วมในการชุมนุมของมนุษยชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด


ที่มา :

1. มุซารุชชีอะฮ์, หน้า 46

2. อัลมัลฮูฟ, เล่ม 1, หน้า 225

3. มักตัล อัลฮุซัยน์ (อ.) ,มุกัรร็อม, เล่ม 1, หน้า 363

4. เราฎอตุชชุฮะดาอ์, หน้า 391

5. เป็นไปได้ที่จะแนะนำวันที่ 19 ของเดือนซอฟัรเป็นวันอัรบะอีน โดยการนับวันอาชูรอเป็นจุดเริ่มต้นของอัรบะอีน หรือกรณีที่เดือนมุฮัรร็อมในปี ฮ.ศ.61 มีสามสิบวัน แต่เมื่อพิจารณาถึงกรณีว่าไม่มีใครถือเอาวันที่ 19 เป็นวันอัรบะอีน นอกจากเชคบะฮาอีเพียงคนเดียว ดังนั้นจึงควรนับวันที่ 11 ของเดือนมุฮัรร็อมเป็นจุดเริ่มต้นของอัรบะอีน

6. เตาฎีฮุลมะกอซิด, หน้า 6 และ 7

7. งานวิจัยเกี่ยวกับอัรบะอีนแรกของท่านซัยยิดุชชุฮะดาอ์ (อ.), หน้า 277

8. อัลมัลฮูฟ, เล่ม 1, หน้า 225

9. บิฮารุลอันวารia, เล่ม 98, หน้า 329

10. วะซาอิลุชชีอะฮ์, เล่ม 14, หน้า 497

11. บิฮารุลอันวาร, เล่ม 98, หน้า 171


บทความโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2018 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 518 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

22267376
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
49487
49453
253406
21646861
151853
1600060
22267376

พฤ 03 ต.ค. 2024 :: 21:28:16