มัชริกรายงาน : ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามกล่าวเมื่อวันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2566 เกี่ยวกับอาชญากรรมของระบอบไซออนิสต์ในฉนวนกาซาว่า : " จะไม่มีใครสามารถหยุดยั้งพวกเขาได้อีกต่อไป จงรู้สิ่งนี้ไว้ด้วย อย่าได้คาดหวังจากใครว่า อย่าปล่อยให้กลุ่มใดกระทำเช่นนั้นเช่นนี้ จะไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาได้เมื่อพวกเขาหมดความอดทน นี่คือข้อเท็จจริงหนึ่ง แน่นอนว่า ไม่ว่าระบอบไซออนิสต์จะทำอะไรก็ตาม ก็จะไม่สามารถชดเชยความพ่ายแพ้อันน่าอับอายที่พวกเขาประสบในครั้งนี้ได้"
ถ้อยแถลงของอายะตุลลอฮ์คอเมเนอี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน แสดงให้เห็นว่า กองกำลังต่างๆ ของแกนต่อต้านเห็นพร้องต้องกันที่จะเปิดใช้ภูมิประเทศภายใต้การควบคุมของตนอย่างบูรณาการ เพื่อจัดการกับเป้าหมายเดียว ในกรณีที่เส้นสีแดงถูกทำลาย แต่ลักษณะของภูมิประเทศดังกล่าวนี้เป็นอย่างไร
ในช่วง 3 เดือนก่อนการเป็นชะฮีด (มรณสักขี) นายพล "กอซิม สุไลมานี" ได้อธิบายภูมิประเทศของแกนต่อต้านในการพบปะกับบรรดาผู้บัญชาการทหารระดับสูงของกองกำลังติดอาวุธทั้งหลาย ในภูมิประเทศนี้ มีการจัดตั้งกองทัพ 6 กองทัพนอกพรมแดนอิหร่านและในช่องยาว 1,500 กม. และกว้าง 1,000 กม. ไปถึงชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ความลึกของช่องนี้ขยายไปจนถึงส่วนลึกในดินแดนที่ถูกยึดครอง
ค่ายสหรัฐฯ เพื่อที่จะครอบครองเหนือภูมิภาคนี้ จำเป็นจะต้องเอาชนะกองทัพทั้ง 6 เหล่านี้ นายพลสุไลมานีแนะนำกองทัพทั้ง 6 ไว้ดังต่อไปนี้ คือ : สองกองทัพในปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองที่มีชื่อว่า “ฮามาส” และ “อิสลามิกญิฮาด” หนึ่งกองทัพในเลบานอนชื่อว่า “ฮิซบุลลอฮ์” หนึ่งกองทัพในอิรักที่มีชื่อว่า “ฮัชด์ อัล-ชาบี” หนึ่งกองทัพในเยเมนที่มีชื่อว่า “อันซอรุลลอฮ์” และอีกหนึ่งกองทัพในซีเรีย
ฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอน : จำนวนกำลังภายใต้การบังคับบัญชาของฮิซบุลลอฮ์คาดว่า มีมากกว่า 100,000 นาย ศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ (CSIS) ของสหรัฐอเมริกาเขียนในเรื่องนี้ : "กลุ่มฮิซบุลลอฮ์เป็นผู้เล่นที่ไม่ใช่ภาครัฐที่มีอาวุธมากที่สุดในโลก ซึ่งมีคลังจรวดปืนใหญ่ที่กว้างขวางและหลากหลาย และยังมีขีปนาวุธทิ้งตัวและอาวุธต่อต้านอากาศยาน ขีปนาวุธต่อต้านรถถังและขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ”
ขีปนาวุธทิ้งตัว ได้แก่ "Fatih 110", "Zelzal", "Khyber", "Fajr 5", "Fajr 3", "Shaheen 1", "Falaq 2", "Falaq 1" ถือเป็นส่วนหนึ่งจากขีปนาวุธ / จรวดจากพื้นสู่พื้น ที่อยู่ในมือของฮิซบุลลอฮ์ ตามคำกล่าวอ้างขององค์กรคลังสมองของอเมริกา
จรวด "AT-5", "AT-13", "AT-14" และ "AT-4" ซึ่งอยู่ในกลุ่มอาวุธต่อต้านรถถัง, ขีปนาวุธ "Yakhont" และ "C-802" ซึ่งอยู่ในกลุ่มอาวุธต่อต้านเรือรบและขีปนาวุธ "SA-17 และ "SA-8" อยู่ในกลุ่มอาวุธต่อต้านอากาศยานของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ซึ่งชื่อต่างๆ ของมันแสดงอยู่ในอินโฟกราฟิกด้านล่าง [1]
คลังแสงของฮิซบุลลอฮ์ตามรายงานของศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ (CSIS)
สถาบันแอตแลนติกแห่งสหรัฐอเมริกา (Atlantic Council of United States) ประมาณการว่า คลังแสงขีปนาวุธของฮิซบุลลอฮ์มีจำนวนถึง 150,000 ลูก The Begin–Sadat Center for Strategic Studies (BESA Center) ก็ได้ประมาณการไว้ในจำนวนนี้เช่นกัน และในการอธิบายถึงอำนาจของฮิซบุลลอฮ์นั้น ได้เขียนว่า : ฮิซบุลลอฮ์มีขีปนาวุธและจรวด150,000 ลูกและสามารถกำหนดเป้าหมายไปยังพื้นที่ทุกส่วนของอิสราเอลได้ [3]
ศูนย์การศึกษาและการวิจัยอัลมา (Alma) เป็นองค์กรคลังสมองของไซออนิสต์ที่ตั้งอยู่ในดินแดนที่ถูกยึดครอง ซึ่งมีหน้าที่พิเศษในการติดตามภัยคุกคามของรัฐบาลจากชายแดนทางตอนเหนือของปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง สถาบันวิจัยอัลมาประเมินว่า คลังแสงโดรนของฮิซบุลลอฮ์ในปี 2021 ไดเพิ่มขึ้น 40 เท่าของในช่วงสงคราม 33 วันในปี 2006
คลังแสงโดรนของฮิซบุลลอฮ์ ตามคำกล่าวอ้างของสถาบันอัลมา (Alma) ของไซออนิสต์ “ฮิซบอลเลาะห์มีโดรน 2,000 ลำ” |
กลุ่มฮามาสและอิสลามิกญิฮาด : "อิซซุดดีน อัล ก็อซซาม" (Izz ad-Din al-Qassam) เป็นชื่อของสาขาทางทหารของกลุ่มฮามาส และ "ซะรอยา อัล-กุดส์" (Saraya Al-Quds) เป็นชื่อของสาขาทหารของกลุ่มอิสลามิกญิฮาดของปาเลสไตน์ ระบอบไซออนิสต์ประเมินว่า กลุ่มฮามาสและอิสลามิกญิฮาดในฉนวนกาซามีขีปนาวุธและปืนครกมากกว่า 30,000 ลูกอยู่ในคลังแสง [4]
รอยเตอร์ อ้างแหล่งข่าวหนึ่งในฉนวนกาซา โดยเขียนว่า กลุ่มฮามาสมีสถาบันการทหารที่สอนสาขาวิชาเฉพาะทางต่างๆ ได้แก่ หน่วยความม้่นคงทางไซเบอร์ และมีหน่วยคอมมานโดทางเรือ จำนวนกองกำลังทั้งหมดมีประมาณ 40,000 คน [5]
หนึ่งในผู้นำขบวนการ "ฮามาส" กล่าวกับสื่อสปุตนิกว่า : "เราได้ส่งนักรบ 2,000 คนไปปฏิบัติการทางทหารเพื่อต่อสู้กับอิสราเอล และเรายังมีนักรบอีก 40,000 คนในฉนวนกาซา"
กองกำลังต่อต้านของปาเลสไตน์โจมตีกองทัพไซออนนิสต์ด้วยกำลังทหารเพียง 2,000 คน ในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 กองกำลังต่อต้านของปาเลสไตน์ได้สร้างความปราชัยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ต่อระบอบการปกครองอิสราเอล ขณะที่พวกเขาอยู่ในพื้นที่ที่มีขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของกรุงเตหะราน และอยู่ภายใต้การล้อมของทหารทางอากาศ ทางบก และทางทะเลอย่าง 100% กองทัพนี้ก่อตั้งขึ้นในพื้นที่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "คุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก" และรั้วตามแนวชายแดนรอบๆ ก็เป็นรั้วรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุดในโลก
รั้วรักษาความปลอดภัยของระบอบไซออนนิสต์บริเวณชายแดนฉนวนกาซานั้นเป็นพรมแดนที่ทันสมัยที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นบนโลกในแง่ของเทคโนโลยี แนวรั้วได้รับการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง โดยกองทหารของรัฐบาล บนภาคพื้นดินและโดรนบนท้องฟ้า |
ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี (Hashd al-Shaabi) : กองกำลังระดมพลของอิรัก (The Popular Mobilization Forces - PMF หรือภาษาอาหรับ : قوات الحشد الشعبي : Quwwāt al-Ḥashd ash-Shaʿbī) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 2014 หลังจากที่กลุ่มไอซิส (ISIS) โจมตีเมืองต่างๆ ของประเทศนี้ องค์กรนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอิรักอย่างเป็นทางการและอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี
สถาบันวอชิงตัน (The Washington Institute) เขียนเกี่ยวกับกองกำลัง "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี" ว่า : ในรายงานวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมาของคณะกรรมการการเงินของรัฐสภาอิรักระบุว่า จำนวนกองกำลังฮัชด์ อัล-ชะอ์บี ในงบประมาณปี 2023 เพิ่มขึ้น 95% และจากจำนวน 122,000 คนเป็น 230,000 คน แต่ทว่าจำนวนนี้ได้รับการประกาศโดยผู้นำของกองกำลังฮัชด์ อัล-ชะอ์บี ว่าอยู่ที่ 204,000 คน [6]
สถาบันวอชิงตันกล่าวอ้างว่า งบประมาณของกองกำลัง "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี" เพิ่มขึ้นจาก 2.16 พันล้านดอลลาร์ ในงบประมาณปี 2021 เป็น 2.6 พันล้านดอลลาร์และบวกอีก 23% เพื่อให้เข้าใจตัวเลขนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะรู้ว่างบประมาณของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) ในปี 2023 สูงถึง 119,000 พันล้านโตมานของประเทศของอิหร่าน [7] เทียบกับค่าดอลลาร์ตามตัวเลขนี้ อยู่ที่ประมาณ 2.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่า งบประมาณของกองกำลัง "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี" นั้นมากกว่างบประมาณของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC)
การเติบโตเชิงตัวเลขของ "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี" ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ที่มา : สถาบันวอชิงตัน (The Washington Institute) |
ตอนนี้ "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี" ได้กลายเป็นกองทัพคลาสสิกไปแล้ว ในขบวนสวนสนามขององค์กรนี้ เมื่อปี 2022 มีการแสดงอาวุธเบา กลาง และหนักหลากหลายชนิด ที่สำคัญที่สุดคือรถถัง T-72 และ T-52 ปืนใหญ่ โดรนตรวจตราและตรวจวัด โดรนนำทางขั้นสูง ชนิดต่างๆ ของเรดาร์และอุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องยิงจรวด ระบบโทรคมนาคม เป็นต้น [8] วิดีโอด้านล่างนี้เกี่ยวข้องกับขบวนพาเหรด ในปี 2022 ของกองกำลัง "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี"
อันซอรุลลอฮ์ ของเยเมน : องค์กรนี้เป็นหน่วยงานทางทหารของรัฐบาลเยเมนที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีเมืองหลวง "ซานา" (ซ็อนอา) หลังการปฏิวัติของประชาชนในปี 2015 กองกำลัง "อันซอรุลลอฮ์" ได้กลายเป็นกองทัพเช่นเดียวกับกองกำลัง "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี"
อำนาจของอันซอรุลลอฮ์แข็งแกร่งมากจนถึงขั้นสามารถกำหนดเป้าโจมตีไปที่โรงงานน้ำมันของ Aramco เมื่อปี 2018 ในรูปแบบการโจมตีตอบโต้แบบผสมผสาน (ขีปนาวุธ/โดรน) ในลักษณะที่กลายเป็นการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก
ในปี 2018 ฐานข้อมูล "Statista" นำเสนอส่วนหนึ่งของคลังแสงขีปนาวุธ ของกองกำลัง "อันซอรุลลอฮ์" ของเยเมนและระยะการยิงของมันในรูปของอินโฟกราฟิก ไว้ดังนี้ : ขีปนาวุธ "Barkan-2" มีระยะการยิง 1,400 กม., ขีปนาวุธ "Barkan-1" มีระยะการยิง 800 กม., ขีปนาวุธ "Hwasong-6" มีระยะการยิง 500 กม., ขีปนาวุธ "Scud B" มีระยะการยิง 300 กม. , ขีปนาวุธ "Zelzal-3" มีระยะการยิง 250 กม. ซึ่งถูกกล่าวถึงว่าเป็นส่วนหนึ่งของขีปนาวุธของกองกำลังอันซอรุลลอฮ์ของเยเมน [9]
ภาพรวมของคลังแสงขีปนาวุธของ "อันซอรุลลอฮ์" ของเยเมน ที่มา: Statista |
โดรน "Ababil-2", "Samad 1-2-3", "Qasif-1" และ "Qasif-2K" เป็นหนึ่งในโดรนที่กลุ่มอันซอรุลลอฮ์ของเยเมนใช้ ในอีกด้านหนึ่ง อันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมนได้แสดงอาวุธใหม่และเซอร์ไพรส์จำนวนหนึ่งในขบวนสวนสนามครบรอบ 9 ปีของการปฏิวัติประชาชนเยเมน เมื่อปี 2022
ขีปนาวุธร่อน Quds 1, Quds 2 และ Quds 3 เคยได้รับการแสดงมาแล้วในอดีต แต่ในขบวนสวนสนามครั้งนี้ ก็มีการแสดงขีปนาวุธ Quds 4 ซึ่งมีระยะทำการ 2,000 กม. ระยะทำการนี้ หมายความว่า กองกำลังของระบอบไซออนิสต์ในดินแดนที่ถูกยึดครองก็อยู่ในกากบาท (หมายหัว) ของกลุ่มอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมนด้วย
ขบวนสวนสนามของกองทัพเยเมนในปี 2022 |
กองทัพซีเรีย : รัฐบาลและกองทัพซีเรียเป็นส่วนหนึ่งของแกนต่อต้าน แต่ปัญหาไม่ได้จบเพียงแค่นั้น สถาบันวิจัยไซออนิสต์ที่รู้จักกันในชื่อ "สถาบันศึกษาความมั่นคงแห่งชาติ" (National Security Studies หรือ INSS) ซึ่งตั้งอยู่ในดินแดนที่ถูกยึดครอง ในช่วงฤดูหนาวปี 2020 ได้อ้างในรายงานว่า กองกำลังฮิซบุลลอฮ์ทางตอนใต้ของซีเรียได้รับการจัดระเบียบในรูปแบบของสองหน่วยงานภายใต้ชื่อ "กองบัญชาการภาคใต้" (Southern Command) และหน่วย "โกลันไฟล์" (Golan File Unite)
ตามข้อมูลขององค์กรไซออนิสต์แห่งนี้ กองบัญชาการภาคใต้ (Southern Command) ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ฮิซบุลลอฮ์ ซึ่งอยู่ในฐานะที่ปรึกษาและผู้พิทักษ์ในกองทัพซีเรีย หน่วยโกลานไฟล์ (Golan File Unit) ก็อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาโดยตรงของฮิซบุลลอฮ์ โดยการสร้างกลุ่มนักต่อสู้จากชาวซีเรียในท้องถิ่น [10]
ที่ตั้งของหน่วย "โกลานไฟล์" และ "กองบัญชาการภาคใต้" ของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์
บนชายแดนซีเรียที่ติดกับดินแดนที่ถูกยึดครอง (โกลาน)
ในปี 2019 หนังสือพิมพ์ Yedioth Ahronoth อ้างในรายงานว่า กองกำลังกุดส์ (ของอิหร่าน) กำลังฝึกและจัดเตรียมกองกำลังท้องถิ่นในระยะ 30 กิโลเมตรจากชายแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง ในรูปแบบของหน่วยที่เรียกว่า กองพันที่ 313 ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นกองพลที่ 313 [11]
นิตยสารนิวส์วีค (Newsweek) เดือนกรกฎาคม 2023 อ้างว่ามีการจัดตั้งหน่วยติดอาวุธหนักซึ่งประกอบด้วยนักรบหลายพันคนจากทั่วภูมิภาค ซึ่งสามารถปฏิบัติการต่อต้านกองทัพอเมริกันที่ยึดครองในซีเรียและระบอบไซออนิสต์ได้ ชื่อของหน่วยนี้คือ "กองทัพอิมามฮุเซน" ซึ่งก่อตั้งโดยนายพลสุไลมานีในปี 2016
นิตยสารอเมริกันฉบับนี้อ้างว่า มีการปฏิบัติการขีปนาวุธสองครั้งของ "กองทัพอิมามฮุเซน" ในการต่อต้านระบอบไซออนิสต์ในเดือนมกราคม 2019 และมิถุนายน 2019 นิตยสารนี้อ้างว่า ฐานทัพอเมริกันในภูมิภาคอัล-ตันฟ์ (At Tanf) ของซีเรียก็ถูกโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธโดยหน่วยทหารแห่งนี้ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2021 [12] แหล่งข้อมูลของนิตยสารอเมริกันฉบับนี้กล่าวถึง "กองทัพอิมามฮุเซน" ภายใต้ชื่อ "ฮิซบุลลอฮ์ 2" ในซีเรีย
การตบที่หนักกว่ากำลังจะมาถึงแล้วใช่ไหม?
"ซัยยิดอับดุลมาลิก บัดรุดดีน อัล-ฮูซี" ผู้นำขบวนการ "อันซอรุลลอฮ์" ของเยเมน ได้ประกาศเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ประชาชนของเราจำนวนหลายแสนคนพร้อมที่จะเข้าสู่ปฏิบัติการ และจะเข้าสมทบกับชาวปาเลสไตน์เพื่อเผชิญหน้ากับศัตรู และเราจะไม่ลังเลที่จะทำอะไรก็ตามที่เป็นไปได้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัฐบาลเยเมนกล่าวเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมว่า : "กองทัพเยเมนกำลังรอฟังคำสั่งของผู้นำการปฏิวัติ (หมายถึง ซัยยิดอับดุลมาลิก บัดรุดดีน อัล-ฮูซี) และพวกเขาก็บอกกับท่านว่า ไม่ว่าท่านจะพูดอะไรก็ตาม และไม่ว่าบรรดาศัตรูจะอยู่ที่ไหนก็ตาม พวกเราก็จะลุกขึ้นเหมือนกับภูเขาไฟมรณะระเบิดลงบนหัวของพวกเขา พวกเราขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า หากท่านออกคำสั่ง พวกเราจะโจมตีไปยังดินแดนอัล-ริบาฏ (ปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง) โดยไม่ลังเลด้วยขีปนาวุธและโดรนของเรา”
“ฟาลิห์ อัล-ฟัยยาด” ผู้บัญชาการกองกำลัง “อัชด์ อัช-ชะอ์บี” ของอิรักกล่าวเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาเช่นกัน ว่า : “เราคือผู้สนับสนุนหลักของกองกำลังต่อต้าน และอิรักจะไม่อนุญาตให้สหรัฐฯ ช่วยเหลืออิสราเอล ผลที่ตามมาของเหตุการณ์ต่างๆ ในฉนวนกาซาก็จะยิ่งใหญ่เช่นกัน และผลลัพธ์ของมันจะเป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะโดยเร็ว”
อิสมาอีล ฮะนียะฮ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสสูงสุดของกลุ่มฮามาส กล่าวเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมว่า : “สิ่งที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาอาจกลายเป็นความขัดแย้งในระดับภูมิภาค ซึ่งศัตรูและผู้สนับสนุนจะไม่สามารถควบคุมมันได้”
หลักฐานต่างๆ แสดงให้เห็นว่า ด้านต่างๆ ของแกนต่อต้านอยู่ในโหมดเตรียมพร้อม และมีเจตจำนงที่จะทำการตอบโต้อย่างแน่นอน หากความชั่วร้ายของระบอบไซออนิสต์ยังคงดำเนินต่อไปและเส้นสีแดงได้ถูกทำลายลง ซึ่งท่านอายะตุลลอฮ์อะลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามของอิหร่านได้กล่าวถึงมันว่า "การตบที่หนักกว่า" เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามกล่าวไปยังระบอบไซออนิสต์ว่า :
“การโจมตีฉนวนกาซา การโจมตีบ้านเรือนของประชาชน การโจมตีพลเรือน การสังหารหมู่ชาวฉนวนกาซา การเสแสร้งแสดงตนว่าเป็นผู้ถูกอธรรม (ของระบอบไซออนิสต์) นี้ เป็นการหาข้ออ้างเพื่อที่จะทวีความรุนแรงของอาชญากรรมเหล่านี้ พวกเขาต้องการอธิบายเหตุผลของการก่ออาชญากรรมเหล่านี้โดยแสร้งทำเป็นว่าตนเองถูกอธรรม ข้าพเจ้าขอบอกว่า นี่ก็เป็นการคำนวณที่ผิดพลาดเช่นกัน บรรดาผู้นำและผู้มีอำนาจตัดสินใจของระบอบการปกครองที่แย่งชิงดินแดนและผู้สนับสนุนของพวกเขาจงรู้เถิดว่า สิ่งนี้จะนำภัยพิบัติ (บะลาอ์) มาสู่พวกเขามากยิ่งขึ้น พวกเขาจงรู้เถิดว่า ปฏิกิริยาตอบโต้ต่อความโหดร้ายเหล่านี้จะเป็นการตบที่หนักหน่วงกว่า ลงบนใบหน้าที่น่าเกลียดของพวกเขา"
แหล่งอ้างอิง :
[1]:csis.org/analysis/hezbollahs-missiles-and-rockets
[2]: aljazeera.com/news/2023/10/16/can-lebanons-hezbollah-afford-to-go-to-war-with-israel cfr.org/backgrounder/what-hamas
[3]:besacenter.org/israels-south-lebanon-withdrawal
[4]: cfr.org/backgrounder/what-hamas
[5]:reuters.com/world/middle-east/how-hamas-secretly-built-mini-army-fight-israel-2023-10-13/
[6]:washingtoninstitute.org/policy-analysis/extraordinary-popular-mobilization-force-expansion-numbers
[7]:tn.ai/2836774
[8]:irna.ir/news/84831441
[9]:statista.com/chart/13375/the-houthi-missile-threat-to-saudi-arabia
[10]:inss.org.il/publication/south-syria-threat
[11]:ynetnews.com/articles/0,7340,L-5042133,00.html
[12]:newsweek.com/irans-most-powerful-unit-yet-syria-targets-us-israel-intel-finds-1814151
ที่มา : farsnews
Copyright © 2023 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่