6 กองทัพของนายพลสุไลมานีในการเผชิญหน้ากับระบอบไซออนิสต์ +ภาพวิดีโอ
Powered by OrdaSoft!
No result.

6 กองทัพของนายพลสุไลมานีในการเผชิญหน้ากับระบอบไซออนิสต์

             มัชริกรายงาน : ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามกล่าวเมื่อวันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2566 เกี่ยวกับอาชญากรรมของระบอบไซออนิสต์ในฉนวนกาซาว่า : " จะไม่มีใครสามารถหยุดยั้งพวกเขาได้อีกต่อไป จงรู้สิ่งนี้ไว้ด้วย อย่าได้คาดหวังจากใครว่า อย่าปล่อยให้กลุ่มใดกระทำเช่นนั้นเช่นนี้ จะไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาได้เมื่อพวกเขาหมดความอดทน นี่คือข้อเท็จจริงหนึ่ง แน่นอนว่า ไม่ว่าระบอบไซออนิสต์จะทำอะไรก็ตาม ก็จะไม่สามารถชดเชยความพ่ายแพ้อันน่าอับอายที่พวกเขาประสบในครั้งนี้ได้"

ภาพ ท่านอายะตุลลอฮ์คอเมเนอี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน

           ถ้อยแถลงของอายะตุลลอฮ์คอเมเนอี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน แสดงให้เห็นว่า กองกำลังต่างๆ ของแกนต่อต้านเห็นพร้องต้องกันที่จะเปิดใช้ภูมิประเทศภายใต้การควบคุมของตนอย่างบูรณาการ เพื่อจัดการกับเป้าหมายเดียว ในกรณีที่เส้นสีแดงถูกทำลาย แต่ลักษณะของภูมิประเทศดังกล่าวนี้เป็นอย่างไร

           ในช่วง 3 เดือนก่อนการเป็นชะฮีด (มรณสักขี) นายพล "กอซิม สุไลมานี" ได้อธิบายภูมิประเทศของแกนต่อต้านในการพบปะกับบรรดาผู้บัญชาการทหารระดับสูงของกองกำลังติดอาวุธทั้งหลาย ในภูมิประเทศนี้ มีการจัดตั้งกองทัพ 6 กองทัพนอกพรมแดนอิหร่านและในช่องยาว 1,500 กม. และกว้าง 1,000 กม. ไปถึงชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ความลึกของช่องนี้ขยายไปจนถึงส่วนลึกในดินแดนที่ถูกยึดครอง

           ค่ายสหรัฐฯ เพื่อที่จะครอบครองเหนือภูมิภาคนี้ จำเป็นจะต้องเอาชนะกองทัพทั้ง 6 เหล่านี้ นายพลสุไลมานีแนะนำกองทัพทั้ง 6 ไว้ดังต่อไปนี้ คือ : สองกองทัพในปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองที่มีชื่อว่า “ฮามาส” และ “อิสลามิกญิฮาด” หนึ่งกองทัพในเลบานอนชื่อว่า “ฮิซบุลลอฮ์” หนึ่งกองทัพในอิรักที่มีชื่อว่า “ฮัชด์ อัล-ชาบี” หนึ่งกองทัพในเยเมนที่มีชื่อว่า “อันซอรุลลอฮ์” และอีกหนึ่งกองทัพในซีเรีย

            ฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอน : จำนวนกำลังภายใต้การบังคับบัญชาของฮิซบุลลอฮ์คาดว่า มีมากกว่า 100,000 นาย ศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ (CSIS) ของสหรัฐอเมริกาเขียนในเรื่องนี้ : "กลุ่มฮิซบุลลอฮ์เป็นผู้เล่นที่ไม่ใช่ภาครัฐที่มีอาวุธมากที่สุดในโลก ซึ่งมีคลังจรวดปืนใหญ่ที่กว้างขวางและหลากหลาย และยังมีขีปนาวุธทิ้งตัวและอาวุธต่อต้านอากาศยาน ขีปนาวุธต่อต้านรถถังและขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ”

           ขีปนาวุธทิ้งตัว ได้แก่ "Fatih 110", "Zelzal", "Khyber", "Fajr 5", "Fajr 3", "Shaheen 1", "Falaq 2", "Falaq 1"  ถือเป็นส่วนหนึ่งจากขีปนาวุธ / จรวดจากพื้นสู่พื้น ที่อยู่ในมือของฮิซบุลลอฮ์ ตามคำกล่าวอ้างขององค์กรคลังสมองของอเมริกา

           จรวด "AT-5", "AT-13", "AT-14" และ "AT-4" ซึ่งอยู่ในกลุ่มอาวุธต่อต้านรถถัง, ขีปนาวุธ "Yakhont" และ "C-802" ซึ่งอยู่ในกลุ่มอาวุธต่อต้านเรือรบและขีปนาวุธ "SA-17 และ "SA-8" อยู่ในกลุ่มอาวุธต่อต้านอากาศยานของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ซึ่งชื่อต่างๆ ของมันแสดงอยู่ในอินโฟกราฟิกด้านล่าง [1]


คลังแสงของฮิซบุลลอฮ์ตามรายงานของศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ (CSIS)

   คลังแสงของฮิซบุลลอฮ์ตามรายงานของศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ (CSIS)

              สถาบันแอตแลนติกแห่งสหรัฐอเมริกา (Atlantic Council of United States) ประมาณการว่า คลังแสงขีปนาวุธของฮิซบุลลอฮ์มีจำนวนถึง 150,000 ลูก  The Begin–Sadat Center for Strategic Studies (BESA Center) ก็ได้ประมาณการไว้ในจำนวนนี้เช่นกัน และในการอธิบายถึงอำนาจของฮิซบุลลอฮ์นั้น ได้เขียนว่า : ฮิซบุลลอฮ์มีขีปนาวุธและจรวด150,000 ลูกและสามารถกำหนดเป้าหมายไปยังพื้นที่ทุกส่วนของอิสราเอลได้ [3]

              ศูนย์การศึกษาและการวิจัยอัลมา (Alma) เป็นองค์กรคลังสมองของไซออนิสต์ที่ตั้งอยู่ในดินแดนที่ถูกยึดครอง ซึ่งมีหน้าที่พิเศษในการติดตามภัยคุกคามของรัฐบาลจากชายแดนทางตอนเหนือของปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง สถาบันวิจัยอัลมาประเมินว่า คลังแสงโดรนของฮิซบุลลอฮ์ในปี 2021 ไดเพิ่มขึ้น 40 เท่าของในช่วงสงคราม 33 วันในปี 2006

 

  คลังแสงโดรนของฮิซบุลลอฮ์ ตามคำกล่าวอ้างของสถาบันอัลมา (Alma) ของไซออนิสต์                                     “ฮิซบอลเลาะห์มีโดรน 2,000 ลำ”

คลังแสงโดรนของฮิซบุลลอฮ์ ตามคำกล่าวอ้างของสถาบันอัลมา (Alma) ของไซออนิสต์

 “ฮิซบอลเลาะห์มีโดรน 2,000 ลำ”

              กลุ่มฮามาสและอิสลามิกญิฮาด : "อิซซุดดีน อัล ก็อซซาม" (Izz ad-Din al-Qassam) เป็นชื่อของสาขาทางทหารของกลุ่มฮามาส และ "ซะรอยา อัล-กุดส์" (Saraya Al-Quds) เป็นชื่อของสาขาทหารของกลุ่มอิสลามิกญิฮาดของปาเลสไตน์ ระบอบไซออนิสต์ประเมินว่า กลุ่มฮามาสและอิสลามิกญิฮาดในฉนวนกาซามีขีปนาวุธและปืนครกมากกว่า 30,000 ลูกอยู่ในคลังแสง [4]

             รอยเตอร์ อ้างแหล่งข่าวหนึ่งในฉนวนกาซา โดยเขียนว่า กลุ่มฮามาสมีสถาบันการทหารที่สอนสาขาวิชาเฉพาะทางต่างๆ ได้แก่ หน่วยความม้่นคงทางไซเบอร์ และมีหน่วยคอมมานโดทางเรือ จำนวนกองกำลังทั้งหมดมีประมาณ 40,000 คน [5]

             หนึ่งในผู้นำขบวนการ "ฮามาส" กล่าวกับสื่อสปุตนิกว่า : "เราได้ส่งนักรบ 2,000 คนไปปฏิบัติการทางทหารเพื่อต่อสู้กับอิสราเอล และเรายังมีนักรบอีก 40,000 คนในฉนวนกาซา"

             กองกำลังต่อต้านของปาเลสไตน์โจมตีกองทัพไซออนนิสต์ด้วยกำลังทหารเพียง 2,000 คน ในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 กองกำลังต่อต้านของปาเลสไตน์ได้สร้างความปราชัยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ต่อระบอบการปกครองอิสราเอล ขณะที่พวกเขาอยู่ในพื้นที่ที่มีขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของกรุงเตหะราน และอยู่ภายใต้การล้อมของทหารทางอากาศ ทางบก และทางทะเลอย่าง 100%  กองทัพนี้ก่อตั้งขึ้นในพื้นที่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "คุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก" และรั้วตามแนวชายแดนรอบๆ ก็เป็นรั้วรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุดในโลก

รั้วรักษาความปลอดภัยของระบอบไซออนนิสต์บริเวณชายแดนฉนวนกาซานั้นเป็นพรมแดนที่ทันสมัยที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นบนโลกในแง่ของเทคโนโลยี แนวรั้วได้รับการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงโดยกองทหารของรัฐบาล บนภาคพื้นดินและโดรนบนท้องฟ้า

รั้วรักษาความปลอดภัยของระบอบไซออนนิสต์บริเวณชายแดนฉนวนกาซานั้นเป็นพรมแดนที่ทันสมัยที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นบนโลกในแง่ของเทคโนโลยี

แนวรั้วได้รับการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง โดยกองทหารของรัฐบาล บนภาคพื้นดินและโดรนบนท้องฟ้า

              ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี (Hashd al-Shaabi) : กองกำลังระดมพลของอิรัก (The Popular Mobilization Forces - PMF หรือภาษาอาหรับ : قوات الحشد الشعبي : Quwwāt al-Ḥashd ash-Shaʿbī) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 2014 หลังจากที่กลุ่มไอซิส (ISIS) โจมตีเมืองต่างๆ ของประเทศนี้ องค์กรนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอิรักอย่างเป็นทางการและอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี

           สถาบันวอชิงตัน (The Washington Institute) เขียนเกี่ยวกับกองกำลัง "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี" ว่า : ในรายงานวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมาของคณะกรรมการการเงินของรัฐสภาอิรักระบุว่า จำนวนกองกำลังฮัชด์ อัล-ชะอ์บี ในงบประมาณปี 2023 เพิ่มขึ้น 95% และจากจำนวน 122,000 คนเป็น 230,000 คน แต่ทว่าจำนวนนี้ได้รับการประกาศโดยผู้นำของกองกำลังฮัชด์ อัล-ชะอ์บี ว่าอยู่ที่ 204,000 คน [6]

           สถาบันวอชิงตันกล่าวอ้างว่า งบประมาณของกองกำลัง "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี" เพิ่มขึ้นจาก 2.16 พันล้านดอลลาร์ ในงบประมาณปี 2021 เป็น 2.6 พันล้านดอลลาร์และบวกอีก 23%  เพื่อให้เข้าใจตัวเลขนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะรู้ว่างบประมาณของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) ในปี 2023 สูงถึง 119,000 พันล้านโตมานของประเทศของอิหร่าน [7] เทียบกับค่าดอลลาร์ตามตัวเลขนี้ อยู่ที่ประมาณ 2.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่า งบประมาณของกองกำลัง "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี" นั้นมากกว่างบประมาณของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC)

การเติบโตเชิงตัวเลขของ "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี" ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ที่มา : สถาบันวอชิงตัน (The Washington Institute)

การเติบโตเชิงตัวเลขของ "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี" ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ที่มา : สถาบันวอชิงตัน (The Washington Institute)

           ตอนนี้ "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี" ได้กลายเป็นกองทัพคลาสสิกไปแล้ว ในขบวนสวนสนามขององค์กรนี้ เมื่อปี 2022 มีการแสดงอาวุธเบา กลาง และหนักหลากหลายชนิด ที่สำคัญที่สุดคือรถถัง T-72 และ T-52 ปืนใหญ่ โดรนตรวจตราและตรวจวัด โดรนนำทางขั้นสูง ชนิดต่างๆ ของเรดาร์และอุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องยิงจรวด ระบบโทรคมนาคม เป็นต้น [8] วิดีโอด้านล่างนี้เกี่ยวข้องกับขบวนพาเหรด ในปี 2022 ของกองกำลัง "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี"                        

            อันซอรุลลอฮ์ ของเยเมน : องค์กรนี้เป็นหน่วยงานทางทหารของรัฐบาลเยเมนที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีเมืองหลวง "ซานา" (ซ็อนอา) หลังการปฏิวัติของประชาชนในปี 2015 กองกำลัง "อันซอรุลลอฮ์" ได้กลายเป็นกองทัพเช่นเดียวกับกองกำลัง "ฮัชด์ อัล-ชะอ์บี"

           อำนาจของอันซอรุลลอฮ์แข็งแกร่งมากจนถึงขั้นสามารถกำหนดเป้าโจมตีไปที่โรงงานน้ำมันของ Aramco เมื่อปี 2018 ในรูปแบบการโจมตีตอบโต้แบบผสมผสาน (ขีปนาวุธ/โดรน) ในลักษณะที่กลายเป็นการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก

            ในปี 2018 ฐานข้อมูล "Statista" นำเสนอส่วนหนึ่งของคลังแสงขีปนาวุธ ของกองกำลัง "อันซอรุลลอฮ์" ของเยเมนและระยะการยิงของมันในรูปของอินโฟกราฟิก ไว้ดังนี้ : ขีปนาวุธ "Barkan-2" มีระยะการยิง 1,400 กม., ขีปนาวุธ "Barkan-1" มีระยะการยิง 800 กม., ขีปนาวุธ "Hwasong-6" มีระยะการยิง 500 กม., ขีปนาวุธ "Scud B" มีระยะการยิง 300 กม. , ขีปนาวุธ "Zelzal-3" มีระยะการยิง 250 กม. ซึ่งถูกกล่าวถึงว่าเป็นส่วนหนึ่งของขีปนาวุธของกองกำลังอันซอรุลลอฮ์ของเยเมน [9]

 ภาพรวมของคลังแสงขีปนาวุธของ "อันซอรุลลอฮ์" ของเยเมน ที่มา: Statistaภาพรวมของคลังแสงขีปนาวุธของ "อันซอรุลลอฮ์" ของเยเมน ที่มา: Statista

ภาพรวมของคลังแสงขีปนาวุธของ "อันซอรุลลอฮ์" ของเยเมน ที่มา: Statista

            โดรน "Ababil-2", "Samad 1-2-3", "Qasif-1" และ "Qasif-2K" เป็นหนึ่งในโดรนที่กลุ่มอันซอรุลลอฮ์ของเยเมนใช้ ในอีกด้านหนึ่ง อันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมนได้แสดงอาวุธใหม่และเซอร์ไพรส์จำนวนหนึ่งในขบวนสวนสนามครบรอบ 9 ปีของการปฏิวัติประชาชนเยเมน เมื่อปี 2022

            ขีปนาวุธร่อน Quds 1, Quds 2 และ Quds 3 เคยได้รับการแสดงมาแล้วในอดีต แต่ในขบวนสวนสนามครั้งนี้ ก็มีการแสดงขีปนาวุธ Quds 4 ซึ่งมีระยะทำการ 2,000 กม. ระยะทำการนี้ หมายความว่า กองกำลังของระบอบไซออนิสต์ในดินแดนที่ถูกยึดครองก็อยู่ในกากบาท (หมายหัว) ของกลุ่มอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมนด้วย

ขบวนสวนสนามของกองทัพเยเมนในปี 2022

 ขบวนสวนสนามของกองทัพเยเมนในปี 2022

             กองทัพซีเรีย : รัฐบาลและกองทัพซีเรียเป็นส่วนหนึ่งของแกนต่อต้าน แต่ปัญหาไม่ได้จบเพียงแค่นั้น สถาบันวิจัยไซออนิสต์ที่รู้จักกันในชื่อ "สถาบันศึกษาความมั่นคงแห่งชาติ" (National Security Studies หรือ INSS) ซึ่งตั้งอยู่ในดินแดนที่ถูกยึดครอง ในช่วงฤดูหนาวปี 2020 ได้อ้างในรายงานว่า กองกำลังฮิซบุลลอฮ์ทางตอนใต้ของซีเรียได้รับการจัดระเบียบในรูปแบบของสองหน่วยงานภายใต้ชื่อ "กองบัญชาการภาคใต้" (Southern Command) และหน่วย "โกลันไฟล์" (Golan File Unite)

            ตามข้อมูลขององค์กรไซออนิสต์แห่งนี้ กองบัญชาการภาคใต้ (Southern Command) ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ฮิซบุลลอฮ์ ซึ่งอยู่ในฐานะที่ปรึกษาและผู้พิทักษ์ในกองทัพซีเรีย หน่วยโกลานไฟล์ (Golan File Unit) ก็อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาโดยตรงของฮิซบุลลอฮ์ โดยการสร้างกลุ่มนักต่อสู้จากชาวซีเรียในท้องถิ่น [10]

                 ที่ตั้งของหน่วย "โกลานไฟล์" และ "กองบัญชาการภาคใต้" ของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์                                  บนชายแดนซีเรียที่ติดกับดินแดนที่ถูกยึดครอง (โกลาน)

                 ที่ตั้งของหน่วย "โกลานไฟล์" และ "กองบัญชาการภาคใต้" ของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์

                                 บนชายแดนซีเรียที่ติดกับดินแดนที่ถูกยึดครอง (โกลาน)

             ในปี 2019 หนังสือพิมพ์ Yedioth Ahronoth อ้างในรายงานว่า กองกำลังกุดส์ (ของอิหร่าน) กำลังฝึกและจัดเตรียมกองกำลังท้องถิ่นในระยะ 30 กิโลเมตรจากชายแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง ในรูปแบบของหน่วยที่เรียกว่า กองพันที่ 313 ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นกองพลที่ 313 [11]

             นิตยสารนิวส์วีค  (Newsweek) เดือนกรกฎาคม 2023 อ้างว่ามีการจัดตั้งหน่วยติดอาวุธหนักซึ่งประกอบด้วยนักรบหลายพันคนจากทั่วภูมิภาค ซึ่งสามารถปฏิบัติการต่อต้านกองทัพอเมริกันที่ยึดครองในซีเรียและระบอบไซออนิสต์ได้ ชื่อของหน่วยนี้คือ "กองทัพอิมามฮุเซน" ซึ่งก่อตั้งโดยนายพลสุไลมานีในปี 2016

             นิตยสารอเมริกันฉบับนี้อ้างว่า มีการปฏิบัติการขีปนาวุธสองครั้งของ "กองทัพอิมามฮุเซน" ในการต่อต้านระบอบไซออนิสต์ในเดือนมกราคม 2019 และมิถุนายน 2019 นิตยสารนี้อ้างว่า ฐานทัพอเมริกันในภูมิภาคอัล-ตันฟ์ (At Tanf) ของซีเรียก็ถูกโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธโดยหน่วยทหารแห่งนี้ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2021 [12] แหล่งข้อมูลของนิตยสารอเมริกันฉบับนี้กล่าวถึง "กองทัพอิมามฮุเซน" ภายใต้ชื่อ "ฮิซบุลลอฮ์ 2" ในซีเรีย

การตบที่หนักกว่ากำลังจะมาถึงแล้วใช่ไหม?

             "ซัยยิดอับดุลมาลิก บัดรุดดีน อัล-ฮูซี" ผู้นำขบวนการ "อันซอรุลลอฮ์" ของเยเมน ได้ประกาศเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ประชาชนของเราจำนวนหลายแสนคนพร้อมที่จะเข้าสู่ปฏิบัติการ และจะเข้าสมทบกับชาวปาเลสไตน์เพื่อเผชิญหน้ากับศัตรู และเราจะไม่ลังเลที่จะทำอะไรก็ตามที่เป็นไปได้

             รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัฐบาลเยเมนกล่าวเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมว่า : "กองทัพเยเมนกำลังรอฟังคำสั่งของผู้นำการปฏิวัติ (หมายถึง ซัยยิดอับดุลมาลิก บัดรุดดีน อัล-ฮูซี) และพวกเขาก็บอกกับท่านว่า ไม่ว่าท่านจะพูดอะไรก็ตาม และไม่ว่าบรรดาศัตรูจะอยู่ที่ไหนก็ตาม พวกเราก็จะลุกขึ้นเหมือนกับภูเขาไฟมรณะระเบิดลงบนหัวของพวกเขา พวกเราขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า หากท่านออกคำสั่ง พวกเราจะโจมตีไปยังดินแดนอัล-ริบาฏ (ปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง) โดยไม่ลังเลด้วยขีปนาวุธและโดรนของเรา”

             “ฟาลิห์ อัล-ฟัยยาด” ผู้บัญชาการกองกำลัง “อัชด์ อัช-ชะอ์บี” ของอิรักกล่าวเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาเช่นกัน ว่า : “เราคือผู้สนับสนุนหลักของกองกำลังต่อต้าน และอิรักจะไม่อนุญาตให้สหรัฐฯ ช่วยเหลืออิสราเอล ผลที่ตามมาของเหตุการณ์ต่างๆ ในฉนวนกาซาก็จะยิ่งใหญ่เช่นกัน และผลลัพธ์ของมันจะเป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะโดยเร็ว”

             อิสมาอีล ฮะนียะฮ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสสูงสุดของกลุ่มฮามาส กล่าวเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมว่า : “สิ่งที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาอาจกลายเป็นความขัดแย้งในระดับภูมิภาค ซึ่งศัตรูและผู้สนับสนุนจะไม่สามารถควบคุมมันได้”

             หลักฐานต่างๆ แสดงให้เห็นว่า ด้านต่างๆ ของแกนต่อต้านอยู่ในโหมดเตรียมพร้อม และมีเจตจำนงที่จะทำการตอบโต้อย่างแน่นอน หากความชั่วร้ายของระบอบไซออนิสต์ยังคงดำเนินต่อไปและเส้นสีแดงได้ถูกทำลายลง ซึ่งท่านอายะตุลลอฮ์อะลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามของอิหร่านได้กล่าวถึงมันว่า "การตบที่หนักกว่า" เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามกล่าวไปยังระบอบไซออนิสต์ว่า :

            “การโจมตีฉนวนกาซา การโจมตีบ้านเรือนของประชาชน การโจมตีพลเรือน การสังหารหมู่ชาวฉนวนกาซา การเสแสร้งแสดงตนว่าเป็นผู้ถูกอธรรม (ของระบอบไซออนิสต์) นี้ เป็นการหาข้ออ้างเพื่อที่จะทวีความรุนแรงของอาชญากรรมเหล่านี้ พวกเขาต้องการอธิบายเหตุผลของการก่ออาชญากรรมเหล่านี้โดยแสร้งทำเป็นว่าตนเองถูกอธรรม ข้าพเจ้าขอบอกว่า นี่ก็เป็นการคำนวณที่ผิดพลาดเช่นกัน บรรดาผู้นำและผู้มีอำนาจตัดสินใจของระบอบการปกครองที่แย่งชิงดินแดนและผู้สนับสนุนของพวกเขาจงรู้เถิดว่า สิ่งนี้จะนำภัยพิบัติ (บะลาอ์) มาสู่พวกเขามากยิ่งขึ้น พวกเขาจงรู้เถิดว่า ปฏิกิริยาตอบโต้ต่อความโหดร้ายเหล่านี้จะเป็นการตบที่หนักหน่วงกว่า ลงบนใบหน้าที่น่าเกลียดของพวกเขา"


แหล่งอ้างอิง :

[1]:csis.org/analysis/hezbollahs-missiles-and-rockets

[2]: aljazeera.com/news/2023/10/16/can-lebanons-hezbollah-afford-to-go-to-war-with-israel ​ ​cfr.org/backgrounder/what-hamas

[3]:besacenter.org/israels-south-lebanon-withdrawal

[4]: cfr.org/backgrounder/what-hamas

[5]:reuters.com/world/middle-east/how-hamas-secretly-built-mini-army-fight-israel-2023-10-13/

[6]:washingtoninstitute.org/policy-analysis/extraordinary-popular-mobilization-force-expansion-numbers

[7]:tn.ai/2836774

[8]:irna.ir/news/84831441

[9]:statista.com/chart/13375/the-houthi-missile-threat-to-saudi-arabia

[10]:inss.org.il/publication/south-syria-threat

[11]:ynetnews.com/articles/0,7340,L-5042133,00.html

[12]:newsweek.com/irans-most-powerful-unit-yet-syria-targets-us-israel-intel-finds-1814151


ที่มา : farsnews

Copyright © 2023 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 746 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

22265564
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
47675
49453
251594
21646861
150041
1600060
22265564

พฤ 03 ต.ค. 2024 :: 20:44:52