หน่วยงานเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ระบุว่า เด็กร้อยละ 90 ในฉนวนกาซาไม่สามารถรับประทานอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตที่เหมาะสมของพวกเขาได้ เนื่องจากสงครามนองเลือดของอิสราเอลขัดขวางการส่งความช่วยเหลือไปยังดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อม
ในรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี ยูนิเซฟกล่าวว่า การรวบรวมข้อมูลห้ารอบระหว่างเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 ถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 “พบอย่างต่อเนื่องว่า เด็ก 9 ใน 10 คนในฉนวนกาซากำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนด้านอาหารอย่างรุนแรง โดยสามารถอยู่รอดได้ด้วยอาหารสองกลุ่มหรือน้อยกว่านั้นต่อวัน”
รายงานระบุเสริมว่า สงครามที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือนและการจำกัดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้ทำลายระบบอาหารและสุขภาพในฉนวนกาซา และส่งผลให้เกิด “ผลลัพธ์ที่เลวร้าย” ต่อเด็กและครอบครัวของพวกเขา
หน่วยงานของสหประชาชาติ ระบุว่า “นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงผลกระทบอันน่าสยดสยองของความขัดแย้งและข้อจำกัดที่มีต่อความสามารถของครอบครัวในการตอบสนองความต้องการอาหารของเด็ก และความรวดเร็วที่ทำให้เด็ก ๆ เสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการที่คุกคามถึงชีวิต”
อิสราเอลก่อเหตุโจมตีฉนวนกาซาด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม หลังจากที่ฮามาสกลุ่มต่อต้านของชาวปาเลสไตน์ได้ปฏิบัติการครั้งประวัติศาสตร์กับหน่วยงานที่ยึดครอง เพื่อตอบโต้ต่อความโหดร้ายที่ทวีความรุนแรงขึ้นของระบอบการปกครองต่อชาวปาเลสไตน์
จนถึงขณะนี้ ระบอบการปกครองเทลอาวีฟได้สังหารชาวปาเลสไตน์ไปแล้วอย่างน้อย 36,586 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก และบาดเจ็บอีก 83,074 คนในฉนวนกาซา
อิสราเอลจงใจปิดกั้นและชะลอการช่วยเหลือด้านอาหารและเสบียงพื้นฐานเข้าสู่ฉนวนกาซา และใช้ความอดอยากของพลเรือนเป็นวิธีการทำสงคราม
ตามรายงานของสำนักข่าว WAFA ของปาเลสไตน์ นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการรุกรานของอิสราเอล ภาวะทุพโภชนาการและภาวะขาดน้ำได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 37 ราย ในฉนวนกาซา
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่