เยเมนให้คำมั่นอีกครั้งว่า จะดำเนินปฏิบัติการเพื่อชาวปาเลสไตน์ต่อไปเพื่อเป็นการประท้วงสงครามล้างเผ่าพันธุ์ที่ดำเนินอยู่ของระบอบการปกครองอิสราเอลในฉนวนกาซา การตอบโต้ที่ทรงพลังและดังกึกก้องของเยเมนต่อกลุ่มนาซีเกิดขึ้นโดยไม่มีการลังเลหรือความกังวล ซึ่งพวกเขาได้ลิ้มรสมาแล้วในท้องทะเล
พลเอก มูฮัมมัด นัสเซอร์ อัล-อาติฟี รัฐมนตรีกลาโหมเยเมน กล่าวในพิธีเมื่อวันเสาร์ว่า "การลังเลหรือถอนตัวจากจุดยืนที่สนับสนุนเยเมนต่อฉนวนกาซาเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และไม่สามารถเจรจาหรือประนีประนอมได้"
เขากล่าวเสริมว่า “การตอบโต้ที่ทรงพลังและดังกึกก้องของเยเมนต่อกลุ่มนาซีเกิดขึ้นโดยไม่มีการลังเลหรือความกังวล และเราจะรับมือกับความบ้าคลั่งของพวกไซออนิสต์ด้วยความเข้มแข็งของเยเมน ซึ่งพวกเขาได้ลิ้มรสมาแล้วในท้องทะเล”
กองกำลังติดอาวุธของเยเมนได้โจมตีดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองหลายครั้งตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมปีที่ผ่านมา เมื่อระบอบการปกครองเริ่มสงครามในฉนวนกาซา ซึ่งจนถึงขณะนี้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 40,939 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
กองกำลังดังกล่าวมุ่งเป้าโจมตีเรือของอิสราเอลที่กำลังมุ่งหน้าเข้าหรือออกจากดินแดนดังกล่าว เพื่อเป็นความพยายามกดดันให้ระบอบการปกครองหยุดการโจมตีทางทหารอันโหดร้ายและการปิดล้อมที่กำลังดำเนินการอยู่ในฉนวนกาซาในเวลาเดียวกัน
ในขณะเดียวกัน พวกเขาได้ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้อย่างแข็งกร้าวต่อการลอบสังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มต่อต้าน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมระหว่างปฏิบัติการสังหารเป้าหมายที่กรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน และกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน ปฏิบัติการดังกล่าวส่งผลให้อิสมาอิล ฮานียะห์ อดีตหัวหน้าคณะกรรมการการเมืองของกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นขบวนการต่อต้านปาเลสไตน์ และฟูอาด ชูร์ก ผู้บัญชาการระดับสูงของขบวนการต่อต้านของฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอน ต้องเสียชีวิต
นอกจากนี้ อัล-อาติฟี ยังยืนยันอีกว่า เยเมนจะพัฒนาขีดความสามารถต่อไป "ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพตามแนวคิดการสร้างกำลังทหารล่าสุดที่เราต้องการ"
เมื่อเดือนที่แล้ว หัวหน้าฝ่ายป้องกันประเทศเยเมนเน้นย้ำว่า “กระบวนการตัดสินใจทางทหารของประเทศได้ศึกษาปัจจัยกำหนดทางทหารทั้งหมดและวิเคราะห์จุดอ่อนของศัตรูไซออนิสต์อย่างรอบคอบ”
เขายังเตือนด้วยว่า “จุดสำคัญที่สุดในบัญชีข้อมูลต่อเป้าหมายของกลุ่มไซออนิสต์ได้รับการระบุอย่างรอบคอบและแม่นยำ โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลและข่าวกรองอย่างลึกซึ้ง”
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่