ผู้นำอิหร่านยกย่อง 'ผลงานอันยอดเยี่ยม' ของกองกำลังติดอาวุธอิหร่านในการโจมตีอิสราเอล
Powered by OrdaSoft!
No result.
ผู้นำอิหร่านยกย่อง 'ผลงานอันยอดเยี่ยม' ของกองกำลังติดอาวุธอิหร่านในการโจมตีอิสราเอล

อยาตุลลอฮ์ ซัยยิด อาลี คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยกย่อง “ปฏิบัติการอันยอดเยี่ยมของกองกำลังติดอาวุธของเรา” ในการยิงขีปนาวุธโจมตีพื้นที่เทลอาวีฟ และกล่าวว่า “เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายและ ถูกต้องอย่างสมบูรณ์”

    อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี แสดงธรรมเทศนาต่อสาธารณชนในช่วงละหมาดวันศุกร์ประจำสัปดาห์ ต่อหน้าผู้ศรัทธาจำนวนมากที่รวมตัวกันที่มัสยิดอิมามโคมัยนี ในใจกลางกรุงเตหะราน

    อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า  “การปฏิบัติการที่ยอดเยี่ยมของกองกำลังติดอาวุธของเราเป็นไปตามสิทธิของเราและถูกต้องตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์ สิ่งที่กองกำลังติดอาวุธของเรากระทำคือการลงโทษเพียงเล็กน้อยที่สุดสำหรับระบอบไซออนิสต์ที่กำลังแย่งชิงอำนาจ เมื่อเทียบกับอาชญากรรมอันน่าตกตะลึงของระบอบการปกครองที่เหมือนหมาป่าและสุนัขบ้าแห่งอเมริกา"

    อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า “สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านมีหน้าที่ใดๆ ก็ตามเกี่ยวกับเรื่องนี้ สาธารณรัฐอิสลามจะทำหน้าที่นั้นอย่างเต็มกำลังและด้วยความแข็งแกร่ง และความอดทน เราจะไม่ผัดวันประกันพรุ่งและจะไม่รีบร้อนในการปฏิบัติหน้าที่ของเรา”

    ผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า “สิ่งที่เป็นเหตุเป็นผลและสมเหตุสมผล และความเห็นของผู้มีอำนาจตัดสินใจทางการเมืองและการทหารจะถูกดำเนินการในอนาคต หากจำเป็น เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา”

    การละหมาดในกรุงเตหะรานจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงนายซัยยิด ฮัสซัน นัสรุลลอฮ์ ผู้นำกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ซึ่งถูกลอบสังหารในการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในกรุงเบรุต ครั้งสุดท้ายที่นายอายาตอลเลาะห์ คาเมเนอี เป็นผู้นำละหมาดวันศุกร์ คือเมื่อเดือนมกราคม ปี ค.ศ 2020 หลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธไปที่ฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก เพื่อตอบโต้การโจมตีที่ทำให้นายพล กอซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังต่อต้านการก่อการร้ายต้องเสียชีวิต

    อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวถึงนัสรุลลอฮ์ว่า "น้องชาย อันเป็นที่รักของฉัน และความภาคภูมิใจของฉัน เขาคือใบหน้าอันเป็นที่รักของโลกอิสลาม และเสียงอันไพเราะของประชาชาติในภูมิภาค [และ] อัญมณีที่ส่องประกายแห่งเลบานอน"

    ผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกว่า จำเป็นที่จะต้องแสดงความเคารพต่อ ซัยยิด ฮัสซัน นัสรุลลอฮ์ (ขอพระเจ้าอวยพรและประทานสันติภาพแก่เขา) ในละหมาดวันศุกร์ที่เตหะราน และต้องแจ้งข่าวให้ทุกคนทราบด้วย”

    ผู้ฟังคำเทศนาครั้งนี้คือมุสลิมทั้งโลก แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมุ่งเป้าไปที่ประเทศเลบานอนและปาเลสไตน์อันเป็นที่รัก

    “พวกเราทุกคนเสียใจและโศกเศร้ากับการพลีชีพของซัยยิด นัสรุลลอฮ์ ผู้เป็นที่รัก นี่เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และพวกเรารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง แต่การโศกเศร้าของเราไม่ได้หมายถึงความหดหู่ ความทุกข์ใจ และความสิ้นหวัง

    อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีกล่าวว่า แม้ว่าร่างของซัยยิด นัสรุลลอฮ์จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ “บุคลิกภาพที่แท้จริง จิตวิญญาณ วิถีทาง และเสียงที่สื่อความรู้สึกของเขายังคงอยู่ท่ามกลางพวกเรา และจะอยู่กับเราตลอดไป”

    “เขา (ซัยยิด นัสรุลลอฮ์) เป็นธงแห่งการต่อต้านปีศาจที่กดขี่และมารร้ายที่ล่าเหยื่อ เป็นเสียงที่ไพเราะและเป็นผู้ปกป้องผู้ถูกกดขี่อย่างกล้าหาญ เขาเป็นแหล่งกำลังใจและความกล้าหาญสำหรับนักสู้และผู้แสวงหาสิทธิมนุษยชน ความนิยมและอิทธิพลของเขาแผ่ขยายไปไกลเกินกว่าเลบานอน อิหร่าน และประเทศอาหรับ และตอนนี้การพลีชีพของเขาจะเพิ่มอิทธิพลนี้ให้มากขึ้น”

    อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีกล่าวว่า มุสลิมทุกคนจะต้อง "ชดใช้หนี้แก่เลบานอนที่บาดเจ็บและนองเลือด"

    อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีกล่าวว่า ทุกชนชาติหากไม่ต้องการตกอยู่ในการปิดล้อมของศัตรูจนเป็นอัมพาต จะต้องเปิดตาและตื่นตัวตั้งแต่แรก และเมื่อเห็นบรรดาศัตรูไปยังชนชาติอื่น จงถือว่าตนเองเป็นพันธมิตรกับชนชาติที่ถูกกดขี่และถูกอธรรม และจงช่วยเหลือชนชาตินั้น เพื่อว่าศัตรูจะได้ไม่ประสบความสำเร็จในที่นั้น

    ผู้นำกล่าวว่า “ฮิซบุลลอฮ์และวีรชนซัยยิด ได้ปกป้องฉนวนกาซาและญิฮาดเพื่อมัสยิดอัลอักซอ และโจมตีระบอบการปกครองที่แย่งชิงอำนาจและกดขี่ข่มเหง นับเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางการรับใช้ที่สำคัญต่อทั้งภูมิภาคและโลกอิสลามทั้งหมด”

    อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีกล่าวว่าอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีกลล่าวว่า "ไม่ว่าจะด้วยตรรกะใดๆ ไม่มีใครมีสิทธิ์คัดค้านกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ของเลบานอนที่สนับสนุนการยืนหยัดต่อสู้ของชนชาติปาเลสไตน์ มันเป็นหน้าที่ของพวกเขา นี่คือตรรกะทั้งสากลและระดับโลกและตรรกะอัลกุรอาน การปกป้องชาวปาเลสไตน์นั้นเป็นเรื่องชอบธรรม และการสนับสนุนพวกเขาก็เป็นเรื่องชอบธรรมเช่นกัน” 

    อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีกล่าวเสริมในทำนองเดียวกันว่า ปฏิบัติการพายุอัลอักซอของกลุ่มนักรบชาวปาเลสไตน์ภายในดินแดนที่อิสราเอลยึดครองในเดือนตุลาคม 2023 ถือเป็น "สิ่งที่ถูกต้องและถูกกฎหมายในระดับนานาชาติ"

    “ชาติปาเลสไตน์มีสิทธิที่จะยืนหยัดต่อต้านผู้รุกราน และไม่มีศาลใดมีสิทธิที่จะประท้วงต่อชาติปาเลสไตน์ที่ยืนหยัดต่อต้านศัตรูผู้แย่งชิงปาเลสไตน์”

    อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีกล่าวว่า ความดื้อรั้นของสหรัฐฯ และพันธมิตรในการปกป้องอิสราเอลเป็น "ข้ออ้างสำหรับนโยบายร้ายแรงในการเปลี่ยนระบอบการปกครองที่แย่งชิงอำนาจให้กลายเป็นเครื่องมือในการยึดครองทรัพยากรทั้งหมดในภูมิภาคนี้ และนำไปใช้ในความขัดแย้งระดับโลกครั้งใหญ่ ๆ"

    “นโยบายของพวกเขาคือการเปลี่ยนระบอบการปกครองให้เป็นประตูสู่การส่งออกพลังงานจากภูมิภาคสู่โลกตะวันตก และนำเข้าสินค้าและเทคโนโลยีจากตะวันตกสู่ภูมิภาค”

    “สิ่งนี้บอกเราว่า การโจมตีระบอบการปกครองทุกครั้งโดยใครก็ตามและทุกกลุ่มล้วนเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของทั้งภูมิภาคและมนุษยชาติ”

    อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีกล่าวเสริมว่า “ความฝันของพวกไซออนิสต์และอเมริกันเป็นความฝันที่ลวงตาและเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ระบอบการปกครองเป็นต้นไม้ชั่วร้ายที่ถูกถอนรากถอนโคนจากโลก ซึ่งตามความจริงอันศักดิ์สิทธิ์แล้วไม่มีที่อยู่”

    ผู้นำกล่าวว่า ระบอบไซออนิสต์สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้เพียงเพราะได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา และเสริมว่า สถานการณ์จะไม่คงอยู่ยาวนาน

   “วันนี้ กลุ่มอาชญากรไซออนิสต์เองได้ข้อสรุปแล้วว่า พวกเขาจะไม่มีวันชนะฮามาสและฮิซบุลลอฮ์ได้”

    อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีได้เรียกร้องให้ชาวมุสลิมสามัคคีกัน เพื่อต่อต้านมหาอำนาจที่หยิ่งผยองและผู้ละเมิดกฎของโลกที่ยังคงใช้นโยบายแบ่งแยกและปกครองด้วยกลอุบายสารพัดในประเทศอิสลาม

    “นโยบายของอัลกุรอาน คือ ประเทศและกลุ่มมุสลิมควรมีความสามัคคีกัน และหากคุณมีความสามัคคีนี้ สติปัญญาจากพระเจ้าจะสนับสนุนคุณ และคุณจะเอาชนะอุปสรรคทั้งหมดและมีชัยชนะเหนือศัตรูทั้งหมด”

    ผู้นำกล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ประชาชาติอิสลามจะต้องเอาชนะแผนการของศัตรู

    “ศัตรูของอิหร่าน ก็คือศัตรูของปาเลสไตน์ เลบานอน อิรัก อียิปต์ ซีเรีย และเยเมน คือศัตรูเดียวกัน และวิธีการของศัตรูในแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันไป ในที่หนึ่งเขาดำเนินนโยบายนี้ด้วยสงครามจิตวิทยา ในที่หนึ่งก็กดดันทางด้านเศรษฐกิจ ในที่หนึ่งก็ใช้ระเบิดสองตัน และในบางที่ก็ใช้รอยยิ้ม แต่ห้องบัญชาการมีที่เดียว และพวกเขารับคำสั่งจากที่เดียวกันในการโจมตีประชากรมุสลิม”


ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี

Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 599 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

23065611
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
38420
57998
312709
22371799
950088
1600060
23065611

ศ 18 ต.ค. 2024 :: 15:54:35