ผู้แทนอิหร่านในการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเลสมัยที่ 82 (MEPC) แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอิหร่านต่อพันธกรณีทางทะเลระหว่างประเทศ และกล่าวว่าสหรัฐฯ คือต้นตอของความไม่ปลอดภัยในภูมิภาคทะเลแดง
ปูร์เรีย โคลิแวนด์ ออกแถลงการณ์ดังกล่าวเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ "ไร้เหตุผล" ของหลายประเทศ ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ ต่ออิหร่านในการประชุมเกี่ยวกับสถานะความมั่นคงของทะเลแดง
โคลิแวนด์กล่าว “อิหร่านยึดมั่นตามพันธกรณีทุกประการ แต่สหรัฐฯ ได้สร้างความไม่ปลอดภัยในภูมิภาค รวมถึงในทะเลแดง ด้วยการสนับสนุนระบอบไซออนิสต์”
การประชุมสมัยที่ 82 ของ MEPC จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่องค์กรการเดินเรือระหว่างประเทศ (IMO) ในลอนดอน ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนถึง 4 ตุลาคม
การประชุมนานาชาติเจาะลึกประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมากมาย รวมถึงมาตรการระยะกลางที่เสนอสำหรับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) จากเรือ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในการเดินเรือ การแก้ไขปัญหาขยะในทะเล การจัดการน้ำอับเฉา และการลดเสียงใต้น้ำ
โคลิแวนด์ ในฐานะตัวแทนขององค์กรท่าเรือและการเดินเรือ (PMO) เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วยตนเอง แต่ผู้จัดงานของ MEPC ปฏิเสธที่จะออกวีซ่าให้กับคณะผู้แทนสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ซึ่งส่งผลให้พวกเขาต้องเข้าร่วมประชุมผ่านทางออนไลน์
คณะผู้แทนอิหร่านยื่นคำประท้วงต่อการเคลื่อนไหวดังกล่าวเนื่องจากการที่สหราชอาณาจักรไม่ปฏิบัติตามอนุสัญญา IMO เกี่ยวกับการออกวีซ่าตามกำหนดเวลา โดยเลขาธิการขององค์กรสัญญาว่าจะดำเนินการติดตามและสอบสวนเรื่องดังกล่าวต่อไป
สหรัฐฯ และพันธมิตรรัฐบาลตะวันตกกล่าวหาอิหร่านมานานแล้วว่า มีส่วนเกี่ยวข้องและให้ความช่วยเหลือในการปฏิบัติการทางทะเลต่อต้านอิสราเอลโดยกองกำลังติดอาวุธของเยเมนในทะเลแดงและอ่าวเอเดน ซึ่งข้อกล่าวหานี้ถูกสาธารณรัฐอิสลามปฏิเสธอย่างหนักแน่นหลายครั้ง
นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ระบอบการปกครองอิสราเอล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ได้ดำเนินการรุกรานอย่างไม่ปรานีต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อม ซึ่งจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 42,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
กองกำลังติดอาวุธของเยเมนได้ดำเนินการต่อต้านการเดินเรือของอิสราเอลในทะเลแดงและอ่าวเอเดน โดยโจมตีเรือที่มุ่งหน้าไปยังแผ่นดินที่ยึดครองและเรือสัญชาติอิสราเอล เพื่อเป็นการตอบโต้การโจมตีดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อมเป็นเวลานานหลายเดือนของรัฐบาลเยเมน
สหรัฐและพันธมิตรได้โจมตีหลายพื้นที่บนดินแดนเยเมนและนอกชายฝั่งของประเทศเพื่อสนับสนุนฝ่ายที่ยึดครอง ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในภูมิภาคทางทะเล ส่งผลให้เส้นทางเดินเรือในเส้นทางน้ำที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ตกอยู่ในความเสี่ยง
กองทหารและขบวนการต่อต้านของเยเมนให้คำมั่นว่า จะดำเนินปฏิบัติการต่อไปตราบเท่าที่ระบอบการปกครองอิสราเอลยังคงสนับสนุนสงครามฉนวนกาซาและการปิดล้อมที่เลวร้าย
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่