ระบอบการปกครองของอิสราเอลได้ออกมาปกป้องการตัดสินใจของตนในการแบนนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ โดยกล่าวหาผู้นำองค์กรระหว่างประเทศระดับสูงของโลกรายนี้ว่า “มีพฤติกรรมต่อต้านชาวยิว”
อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X (Twitter) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อแสดงเหตุผลในการตัดสินใจของเทลอาวีฟที่จะห้ามกูเตอร์เรสเข้าไปในดินแดนที่อิสราเอลยึดครอง หลังจากชาติสมาชิกสหประชาชาติกว่า 100 ประเทศออกมาประท้วงการกระทำดังกล่าว
เขาอ้างว่า พวกเขาห้ามกูเตอร์เรส “เข้าสู่อิสราเอลเพราะเขาไม่ได้ประณามการยิงขีปนาวุธของอิหร่าน” ต่อดินแดนที่ยึดครอง และ “พฤติกรรมต่อต้านชาวยิวและต่อต้านอิสราเอลของเขา”
อิหร่านได้ดำเนินการตอบโต้ต่อระบอบการปกครองของอิสราเอล ซึ่งมีชื่อว่าปฏิบัติการพันธะสัญญาที่สัตย์จริง 2 (True Promise II) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม เพื่อตอบโต้การลอบสังหารอิสมาอิล ฮานียะห์ หัวหน้ากลุ่มฮามาส ซัยยิด ฮัสซัน นัสรุลลอฮ์ ผู้นำกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ และอับบาส นิลฟูรูซาน ผู้บัญชาการ IRGC โดยระบอบการปกครองของอิสราเอล
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติกล่าวว่า การตัดสินใจของอิสราเอลในการติดประกาศเลขาธิการสหประชาชาติว่าเป็น "บุคคลที่ไม่พึงปรารถนา" และห้ามกูเตอร์เรสเข้าสู่ดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลยึดครอง ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ล้มเหลว
รายงานดังกล่าวยังระบุว่า องค์กรระดับโลกยังคงติดต่อกับระบอบการปกครองของอิสราเอลต่อไป “เนื่องจากพวกเขาจำเป็นต้องทำเช่นนั้น”
ต่อมา ในจดหมายร่วมของประเทศสมาชิกสหประชาชาติมากกว่า 100 ประเทศ เน้นย้ำถึง “การสนับสนุนอย่างเต็มที่และความเชื่อมั่นในตัวเลขาธิการและงานของเขา”
พวกเขากล่าวว่า การตัดสินใจของเทลอาวีฟในการกำหนดให้กูเตอร์เรสเป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนานั้นส่งผลเสียต่อ "ความสามารถในการดำเนินการตามภารกิจ" ของสหประชาชาติและอาจทำให้การยุติสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาซึ่งส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 42,000 คนถูกสังหารโดยกองทหารอิสราเอลล่าช้าออกไป
แคทซ์ กล่าวในโพสต์ของเขาว่าชาวอิสราเอลเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเขา และ "กูเตอร์เรสสามารถรวบรวมลายเซ็นเพื่อสนับสนุน [ตัวเอง] จากสมาชิก UN ต่อไปได้ [แต่] การตัดสินใจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง"
สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกสหประชาชาติ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การกล่าวหาเลขาธิการสหประชาชาติว่าเป็น "บุคคลที่ไม่พึงปรารถนา" เท่ากับเป็นการโจมตีเจ้าหน้าที่สหประชาชาติอีกครั้งโดยระบอบอิสราเอล
โฆษกสหประชาชาติยังตำหนิการกระทำของระบอบยึดครอง โดยกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 24 ปีที่ทำงานกับสหประชาชาติ เขาไม่เคยได้ยินเลยแม้แต่ครั้งเดียวว่าเลขาธิการคนใดถูกใครประกาศห้ามว่าเป็น "บุคคลที่ไม่พึงปรารถนา"
เขากล่าวว่า ตามกฎหมายของสหประชาชาติ แนวคิดเรื่อง “บุคคลที่ไม่พึงปรารถนา” ไม่สามารถบังคับใช้กับเจ้าหน้าที่สหประชาชาติได้ด้วยซ้ำ
เจ้าหน้าที่สหประชาชาติกล่าวว่า องค์กรระหว่างประเทศจะยังคงดำเนินความพยายามเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ปกป้องสิทธิมนุษยชน และส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เนื่องจากเป็นงานที่ได้รับมอบหมายให้ทำ
ดูจาร์ริกยืนยันว่า “เพราะเราจำเป็น เราจะยังคงติดต่อกับอิสราเอลทั้งในระดับปฏิบัติการและระดับอื่น ๆ”
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่