กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ผู้คนมากกว่า 100,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัยเนื่องจากการสู้รบระหว่างกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกีและนักรบชาวเคิร์ดที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในซีเรียตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับสภาวะที่เลวร้ายและการเข้าถึงที่พักพิง อาหาร และการดูแลสุขภาพมีจำกัด
ตามรายงานของฮิวแมนไรท์วอตช์ (HRW) การโจมตีอย่างต่อเนื่องที่นำโดยกองทัพแห่งชาติซีเรีย (SNA) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตุรกี ในซีเรียตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ผู้คนมากกว่า 100,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัยตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ประชากรที่พลัดถิ่นกำลังแสวงหาที่หลบภัยในพื้นที่ที่ควบคุมโดยกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ที่นำโดยชาวเคิร์ด แต่เผชิญกับการขาดแคลนความต้องการพื้นฐานอย่างรุนแรง
องค์กร HRW กล่าวในแถลงการณ์ว่า “สถานการณ์ดังกล่าวทำให้วิกฤตที่รุนแรงและยืดเยื้อเลวร้ายลง โดยมีค่ายผู้ลี้ภัยที่แออัดและโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ตลอดจนขาดแคลนน้ำ ไฟฟ้า การดูแลสุขภาพ อาหาร และที่พักพิงที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ”
กลุ่มสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ “ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในซีเรีย” รับรอง “การเข้าถึงความช่วยเหลือที่ไม่ติดขัด การเดินทางที่ปลอดภัยสำหรับพลเรือนที่หลบหนี และการคุ้มครองสำหรับผู้ที่อยู่”
องค์กรบรรเทาทุกข์แพทย์ไร้พรมแดน (MSF) ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิกฤตที่เลวร้ายลง โดยรายงานว่าประชาชนมากกว่า 80,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่ ตะบ์เกาะ, รอเกาะฮ์ และฮะซะกะฮ์
อัลเลน เมอร์ฟีย์ หัวหน้าโครงการขององค์กรบรรเทาทุกข์แพทย์ไร้พรมแดน (MSF) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียกล่าวว่า “สถานการณ์ที่ผู้คนต้องเผชิญนั้นเลวร้ายมาก”
เขากล่าวว่า “ประชาชนต้องการเข้าถึงบริการที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน รวมถึงการดูแลสุขภาพ น้ำสะอาด และที่พักพิง เนื่องจากอุณหภูมิกำลังลดลงอย่างมาก”
“ในสถานการณ์ปัจจุบันยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการอพยพระลอกใหม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย”
เมอร์ฟีย์ บรรยายสภาพความเป็นอยู่ที่เมืองตะบ์เกาะ ซึ่งผู้คนจำนวนมากต้องหลบภัยอยู่ในสนามกีฬาและโรงเรียนว่าเลวร้ายมาก
เขากล่าวอธิบายว่า “มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับผู้คน”
“อุณหภูมิลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง และผู้คนไม่มีผ้าห่มหรือเครื่องทำความร้อน ห้องน้ำ น้ำสะอาด และอาหารก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากทางการไม่มีเวลาหรือทรัพยากรเพียงพอในการเตรียมตัวรับมือการมาถึงของผู้ประสบภัย”
เมอร์ฟีย์กล่าวเสริมว่า “บริการทางการแพทย์ที่มีอยู่ในบางพื้นที่ซึ่งรับผู้พลัดถิ่นกลายเป็นบริการล้นอย่างรวดเร็ว”
องค์กรบรรเทาทุกข์แพทย์ไร้พรมแดน (MSF) เตือนว่า ความต้องการมีมากเกินกว่ากำลังและทรัพยากรที่มีอยู่ของผู้ตอบสนอง
ก่อนหน้านี้ ฮิวแมนไรท์วอตช์ (HRW) ยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสภาพที่เลวร้ายลงเช่นกัน โดยเรียกร้องให้มีการให้ความสนใจต่อการอพยพครั้งใหญ่และวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ร้ายแรงซึ่งเกิดขึ้นในภูมิภาค
ที่มา : สำนักข่าวตัสนีม
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่