โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเอาชนะ คามาลา แฮร์ริส นับเป็นการพลิกสถานการณ์ทางการเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งส่งผลกระทบที่ไม่อาจคาดเดาได้ต่อโลก
ชัยชนะของทรัมป์วันนี้ (พุธ ที่ 6 พ.ย.) เป็นผลมาจากการรณรงค์หาเสียงที่ไม่เป็นมิตรที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และการพิพากษาลงโทษทางอาญาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทรัมป์กล่าวในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะในฟลอริดา ว่า “มันเป็นชัยชนะทางการเมืองที่ประเทศของเราไม่เคยเห็นมาก่อน”
ทรัมป์เป็นบุคคลเดียวที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา เขาจะต้องเผชิญการพิพากษาคดีฉ้อโกงในศาลนิวยอร์กในวันที่ 26 พฤศจิกายน
ทรัมป์ซึ่งมีอายุ 78 ปีแล้ว กำลังทำลายสถิติอีกครั้งในฐานะประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดที่ดำรงตำแหน่งในช่วง 4 ปี โดยเขาจะแซงหน้าโจ ไบเดน ซึ่งจะลงจากตำแหน่งในเดือนมกราคมนี้ ด้วยวัย 82 ปี
ชัยชนะของทรัมป์ที่เกิดขึ้นภายหลังการรณรงค์หาเสียงที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ความไม่สุภาพ และการละเลยบรรทัดฐานของประธานาธิบดี ส่งผลกระทบอันหนักหน่วงทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ภัยคุกคามของเขาในการเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมาก ก่อให้เกิดความกังวลอย่างมากในละตินอเมริกา
การดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของทรัมป์และจุดยืนแบบ "อเมริกาต้องมาก่อน" ที่ไม่ปิดกั้นและชาตินิยมของเขา สร้างความปั่นป่วนให้กับยุโรปอย่างมาก เนื่องจากพรรครีพับลิกันขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะถอนตัวจาก NATO
โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสตอบสนองต่อผลการสำรวจดังกล่าวโดยกล่าวว่า ยุโรปจะต้องเต็มใจที่จะรับผิดชอบต่อชะตากรรมของตัวเอง
ม็อด เบรเฌอน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ RTL “ในหลายภาคส่วนที่สำคัญ เช่น การป้องกันประเทศ การฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม การลดการปล่อยคาร์บอน เราต้องรับผิดชอบต่อชะตากรรมของเราเอง”
ทรัมป์ยังได้แนะนำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า เขาจะยุติความขัดแย้งในยูเครนด้วยการกดดันเคียฟให้ยอมประนีประนอมดินแดนกับรัสเซีย
แม้ผลโพลก่อนวันเลือกตั้งจากหลายสำนักทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก ต่างออกมาในแนวทางเดียวกันว่า ผู้ที่จะคว้าชัยชนะ เส้นทางสู่ทำเนียบขาวน่าจะเป็น คามาลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต แต่ในที่สุด โดนัลด์ ทรัมป์ กลับเป็นผู้ที่เดินกลับเข้าสู่ห้องทำงานรูปไข่อีกครั้ง หลังคว้าคะแนนที่ 267 มาได้ขณะที่แฮร์ริสได้คะแนน 224 และประกาศชัยชนะทันที
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่