บาชาร์ อัล-อัสซาด ออกแถลงการณ์ครั้งแรก นับตั้งแต่ถูกโค่นอำนาจในซีเรีย
บาชาร์ อัล-อัสซาด ออกแถลงการณ์ครั้งแรก นับตั้งแต่ถูกโค่นอำนาจในซีเรีย

อดีตประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด กล่าวว่า ในช่วงเย็นวันที่ 8 ธันวาคม 2567 เขาได้เดินทางไปยังเมืองลาตาเกียเพื่อควบคุมการรบ ผมไม่เคยหนีไปไหนแม้ในช่วงที่สงครามโหดร้ายที่สุด แต่อยู่กับประชาชนและครอบครัว ต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายท่ามกลางระเบิดและการโจมตีในเมืองหลวงตลอด 14 ปี นอกจากนี้ ผมไม่เคยทิ้งการต่อสู้ในปาเลสไตน์และเลบานอน และไม่เคยทรยศพันธมิตร จึงไม่มีทางที่ผมจะทิ้งประชาชนหรือทรยศต่อกองทัพและประเทศชาติ

    กรุงมอสโคว์ 16 ธ.ค.2567 ช่องTelegram สังกัดของสำนักงานประธานาธิบดีซีเรียในอดีตเผยแพร่แถลงการณ์ของอดีตประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งถือเป็นแถลงการณ์ต่อสาธารณะครั้งแรกนับตั้งแต่เขาถูกโค่นอำนาจ

    ประธานาธิบดีอัสซาดซึ่งถูกโค่นล้มกล่าวว่า เขาได้เดินทางไปยังฐานทัพคไมมิมในซีเรีย และออกไปยังรัสเซียเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 8 ธันวาคม 2567 เนื่องจากฐานทัพดังกล่าวถูกโจมตีด้วยโดรน หลังจากเดินทางออกจากดามัสกัสในช่วงเช้าของวันนั้น ซึ่งเต็มไปด้วยผู้ก่อการร้ายที่เข้ามาปิดล้อม

    ตลอดเวลานี้ ผมไม่เคยคิดจะลาออกหรือหนีไปขอลี้ภัย และไม่มีใครเสนอให้ผมทำเช่นนั้น สิ่งเดียวที่ต้องทำคือสู้กับผู้ก่อการร้ายต่อไป

    อดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด กล่าวว่า “...ความจริงคือ ผมไม่ได้วางแผนหนีออกจากซีเรีย และไม่ได้ออกไปในช่วงชั่วโมงสุดท้ายของการสู้รบตามที่มีข่าวลือ แต่ยังคงอยู่ในดามัสกัสจนถึงเช้าตรู่วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567  เพื่อปฏิบัติหน้าที่ เมื่อการก่อการร้ายบุกเข้าเมืองดามัสกัส ผมจึงเดินทางไปลาตาเกียร่วมกับเพื่อนชาวรัสเซียเพื่อดำเนินการสู้รบจากที่นั่น เมื่อมาถึงฐานทัพคไมมิมในตอนเช้า ก็เห็นได้ชัดว่ากองกำลังได้ถอยทัพร่นไปจากทุกแนวรบแล้ว และฐานทัพสุดท้ายของกองทัพก็ถูกยึดครอง”

    เขากล่าวว่า ฐานทัพทหารรัสเซียถูกโจมตีโดยผู้ก่อการร้าย

    ผมไม่เคยหนีไปไหนแม้ในช่วงที่สงครามโหดร้ายที่สุด แต่อยู่กับประชาชนและครอบครัว ต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายท่ามกลางระเบิดและการโจมตีในเมืองหลวงตลอด 14 ปี นอกจากนี้ ผมไม่เคยทิ้งการต่อสู้ในปาเลสไตน์และเลบานอน และไม่เคยทรยศพันธมิตร จึงไม่มีทางที่ผมจะทิ้งประชาชนหรือทรยศต่อกองทัพและประเทศชาติ

     อัล-อัสซาด กล่าวว่า ผมไม่เคยหวังตำแหน่งเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แต่ทำงานเพื่อประเทศชาติ ด้วยความเชื่อมั่นในประชาชนชาวซีเรีย ผมเชื่อมั่นในความตั้งใจของพวกเขาที่จะปกป้องประเทศและสถาบันจนวินาทีสุดท้าย

    เมื่อประเทศตกอยู่ในมือผู้ก่อการร้าย และเราไม่สามารถทำอะไรได้อีก ตำแหน่งทุกอย่างก็ไร้ความหมาย แต่นี่ไม่ได้ทำให้ความรักที่ผมมีต่อซีเรียและประชาชนลดลง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ความผูกพันนี้จะอยู่กับผมตลอดไป พร้อมความหวังว่าซีเรียจะกลับมาเป็นประเทศที่เป็นอิสระอีกครั้ง​​​​​​​​​​​​​​​​”


ที่มา : สำนักข่าวmehrnews

Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 729 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

25003482
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
14548
32193
116251
24814297
189185
1079962
25003482

พ 18 ธ.ค. 2024 :: 12:01:10