ฮูเซน (อ.) แบบอย่าง การอุทิศชีวิตและความเป็นอยู่ส่วนตน เพื่อช่วยเหลือและปลดปล่อยสังคม
ฮูเซน (อ.) แบบอย่าง การอุทิศชีวิตและความเป็นอยู่ส่วนตน เพื่อช่วยเหลือและปลดปล่อยสังคม

หนึ่งในหัวใจที่สำคัญที่สุดของการซิยาเราะฮ์ อัรบะอีน คือ การอธิบายถึงปรัชญาการยืนหยัดต่อสู้ในเหตุการณ์แห่งอาชูรอ โดยที่เจตนารมณ์ทั้งหมดของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้ถูกอธิบายสรุปไว้ในประโยคสั้นๆ ประโยคเดียว ท่านอิมามซอดิก (อ.) ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้พลีอุทิศชีวิตและการดำรงอยู่ทั้งหมดของตนเองเพื่อปลดปล่อยปวงบ่าวของพระผู้เป็นเจ้า....

    หนึ่งในหัวใจที่สำคัญที่สุดของการซิยาเราะฮ์ อัรบะอีน คือ การอธิบายถึงปรัชญาการยืนหยัดต่อสู้ในเหตุการณ์แห่งอาชูรอ โดยที่เจตนารมณ์ทั้งหมดของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้ถูกอธิบายสรุปไว้ในประโยคสั้นๆ ประโยคเดียว ท่านอิมามซอดิก (อ.) ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนในประโยคนี้ว่า

    “ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้พลีอุทิศชีวิตและการดำรงอยู่ทั้งหมดของตนเองเพื่อปลดปล่อยปวงบ่าวของพระผู้เป็นเจ้า ให้หลุดพ้นออกจากพันธนาการของความไม่รู้และความโง่เขลา (ญะฮาละฮ์) ความมืดมนและการหลงทาง และเพื่อชี้นำพวกเขาไปสู่แสงสว่าง (นูร) และทางนำแห่งพระผู้เป็นเจ้า”

    และนี่คือเป้าหมายสูงสุดของศาสดาและศาสนทูตของพระผู้เป็นเจ้าทั้งปวง ในตลอดเวลาแห่งประวัติศาสตร์ โดยที่ขบวนการต่อสู้แห่งอาชูรอนั้นได้ไปถึงจุดสูงสุดของมัน

    หากเราปรารถนาที่จะเป็นผู้ใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้า ต้องการที่จะเป็นมุอ์มิน (ผู้ศรัทธา) ที่แท้จริง และกล่าวอ้างว่าเป็นผู้ปฏิบัติตามแนวทางของท่านอิมามฮุเซน (อ.) จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องยอมสิโรราบต่อพระบัญชาของพระองค์ในทุกสภาพการณ์ แม้ว่าจะขัดกับความปรารถนาและความต้องการของเราก็ตาม โดยการรำพึงรำพันและการอ่านบทซิยาเราะฮ์ อัรบะอีนนี้ เราจะให้คำมั่นสัญญาว่า นับจากนี้เป็นต้นไป เราจะยอมตนเป็นบ่าวที่บริสุทธิ์ใจและจริงใจด้วยการปฏิบัติตามแนวทางของท่านอิมามฮุเซน (อ.)

    การอดทนแบกรับความทุกข์ยากและความโศกเศร้า เพื่อการปฏิรูปและการแก้ไขปรับปรุงสังคม

السَّلاَمُ عَلَى أَسِيرِ الْكُرُبَاتِ وَ قَتِيلِ الْعَبَرَاتِ

“ขอความสันติพึงมีแด่ผู้ประสบกับความทุกข์โศกทั้งหลาย ผู้ถูกสังหาร และผู้เป็นบ่อเกิดของน้ำตาจากดวงตาทั้งหลาย”

   ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ต้องอดทนอดกลั้นต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคม และต้องเผชิญกับการถูกทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจตลอดเวลา

    ท่านได้ยืนหยัดต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ด้วยกับชีวิต แน่นอนยิ่งว่า บรรดาผู้นำแห่งพระผู้เป็นเจ้าและผู้ปฏิบัติตามที่ซื่อสัตย์ของท่าน ล้วนจะต้องทนทุกข์ทรมานและอดทนอดกลั้นต่อแรงบีบครั้นทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณมากที่สุด

   ท่านอิมามซอดิก (อ.) ได้กล่าวว่า

إِنَّ أَشَدَّ النَّاسِ بَلَاءً الْأَنْبِيَاءُ ثُمَّ الَّذِينَ يَلُونَهُمْ ثُمَّ الْأَمْثَلُ فَالْأَمْثَل

“มนุษย์ที่เผชิญกับความทุกข์ยากมากที่สุด คือปวงศาสดา ต่อจากนั้นก็คือผู้ที่ปฏิบัติตามพวกท่าน และที่คล้ายกันนั้นถัดๆ ลงไป” [1]

   ในคำรายงานบทหนึ่งจากท่านซัลมาน ฟาริซี ก็ได้ชี้ถึงคุณลักษณะของผู้ศรัทธา (มุอ์มิน) ไว้เช่นกัน โดยที่ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ได้กล่าวว่า :

فَعِنْدَهَا يَذُوبُ قَلْبُ الْمُؤْمِنِ فِي جَوْفِهِ كَمَا يَذُوبُ الْمِلْحُ فِي الْمَاءِ مِمَّا يَرَى مِنَ الْمُنْكَرِ فَلَا يَسْتَطِيعُ أَنْ يُغَيِّرَه

“ณ ช่วงเวลา (ใกล้วันสิ้นโลก) นั้น หัวใจของผู้ศรัทธาจะสลายอยู่ด้านในของเขา เหมือนดังเกลือที่จะละลายในน้ำ อันเกิดจากจากความชั่วที่เขาเห็น โดยที่เขาไม่สามารถจะทำการเปลี่ยนแปลงมันได้” [2]

    มุอัมมัร บินค็อลลาด ได้เล่าว่า : ในขณะที่ฉันอยู่กับท่านอิมามริฎอ (อ.) ได้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับชีวิตที่สุขสบายในยุคของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) ท่านอิมาม (อ.) ได้กล่าวว่า :

 أَنْتُمُ الْيَوْمَ أَرْخَى بَالًا مِنْكُمْ يَوْمَئِذٍ قَالَ: وَ كَيْفَ؟ قَالَ: لَوْ قَدْ خَرَجَ قَائِمُنَا علیه السلام لَمْ يَكُنْ إِلَّا الْعَلَقُ وَ الْعَرَقُ وَ الْقَوْمُ عَلَى السُّرُوجِ وَ مَا لِبَاسُ الْقَائِمِ علیه السلام إِلَّا الْغَلِيظُ وَ مَا طَعَامُهُ إِلَّا الْجَشِب

“ในวันนี้พวกท่านจะมีสภาพความเป็นอยู่ที่สุขสบายมากว่าวันนั้น” (หมายถึงช่วงเวลาการปรากฏตัวของมะฮ์ดี) เขากล่าวว่า “จะเป็นอย่างไรหรือ” ท่านอิมาม (อ.) กล่าวว่า “เนื่องจากหากกออิม (อ.) ของเรายืนหยัดขึ้นต่อสู้ จะไม่มีสภาพเป็นอย่างอื่น นอกจากเลือดและเหงื่อ และหมู่ชนจะอยู่บนอานม้าศึก เสื้อผ้าของกออิม (อ.) จะหยาบกร้านและอาหารของเขาจะแห้ง” [3]

    การปฏิวัติคุณค่าต่างๆ ในประวัติศาสตร์ได้กล่าวว่า : ภายหลังจากการแต่งตั้งท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) หลักการและค่านิยมต่างๆ ที่เคยดำเนินอยู่ในสังคมที่ต่อต้านคุณค่าและความดีงามทางโลกนี้และปรโลกของประชาชนถูกเปลี่ยนเป็นคุณค่าและความดีงามแห่งพระผู้เป็นเจ้า ความเชื่อโชคลางและความงมงายต่างๆ ได้เปลี่ยนเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริง สงคราม การหลั่งเลือดและความอธรรมถูกเปลี่ยนเป็นความยุติธรรม ความเสมอภาคและความเท่าเทียมกัน ประชาชนที่ดูภายนอกว่าเป็นคนชั้นต่ำได้กลายเป็นคนที่เชื่อถือได้และมีสถานะทางสังคมที่สูงส่ง กฎระเบียบและหลักเกณฑ์ทางภายนอกและทางด้านวัตถุ ถูกแทนที่ด้วยหลักเกณฑ์ต่างๆ อันสูงส่งและทรงคุณค่า กระทั่งว่าท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ได้เน้นย้ำบรรดาเจ้าหน้าผู้ปฏิบัติงานของท่านว่า ให้อุตสาห์พยายามอย่างเต็มที่ในการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขวิธีการที่ไม่ถูกต้อง และจารีตประเพณีแบบญาฮิลียะฮ์ (อนารยะ)


เชิงอรรถ :

(1) อัลกาฟี, มุฮัมมัด ยะกูบ อัลกุลัยนี, เล่มที่ 2, หน้าที่ 252

(2) มุสตัดร็อก อัลวะซาอิล, มุฮัดดิษ นูรี, เล่มที่ 11, หน้าที่ 372

(3) มุสนัด อัลอิมาม อัรริฎอ (อ.) เชคอะซีซุลลอฮ์ อิฏอริดี คะบูชอนี, เล่มที่ 1, หน้าที่ 219


บทความ : เชคมุฮัมมัดนะอีม ประดับญาติ

Copyright © 2018 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่