อินโดนีเซียและมาเลเซียเรียกร้องให้สหประชาชาติบรรลุข้อตกลงทั่วไปกับอิสราเอล หลังเกิดเหตุสังหารหมู่ครั้งล่าสุดในฉนวนกาซาทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 100 คนเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่อโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นทางตะวันออกของฉนวนกาซา
ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 100 คนเสียชีวิตในวันเสาร์จากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่อโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นทางตะวันออกของฉนวนกาซา ระบอบการปกครองของอิสราเอลได้โจมตีโรงเรียนอย่างน้อย 21 ครั้งในช่วง 40 วันที่ผ่านมา
ชาติต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้วิพากษ์วิจารณ์ระบอบการปกครองของอิสราเอล และให้การสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ที่ไม่มีทางสู้ ซึ่งถูกกักขังและสังหารหมู่โดยเครื่องจักรสงครามของไซออนิสต์ในฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อม
เมื่อวันอาทิตย์ (11 ส.ค.) ที่ผ่านมา ทั้งอินโดนีเซียและมาเลเซียเรียกร้องให้สหประชาชาติร่วมมือกันต่อต้านเทลอาวีฟเพื่อหยุดยั้งการสังหารหมู่พลเรือนในฉนวนกาซา
กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียระบุในแถลงการณ์ว่า “ชุประชาคมระหว่างประเทศไม่ควรอดทนและยอมรับการกระทำรุนแรงของอิสราเอลอีกต่อไป”
“มาเลเซียยังคงเรียกร้องให้พันธมิตรของอิสราเอลกดดันอิสราเอลให้หยุดการสังหารชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์ทันที และหยุดให้เครื่องมือแก่อิสราเอลในการสังหารหมู่ครั้งนี้ต่อไป คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและเด็ดขาดเพื่อบังคับใช้การหยุดยิงอย่างถาวร”
มาเลเซียกล่าวว่า อิสราเอลแสดงให้เห็นว่า “ไม่มีความปรารถนาเพื่อสันติภาพ” และเรียกร้องให้ประเทศมุสลิมอื่น ๆ ภายใต้องค์การความร่วมมืออิสลามที่มีสมาชิก 57 ประเทศ ร่วมมือกันและทำงานร่วมกับประเทศสมาชิกสหประชาชาติเพื่อเรียกร้องให้เทลอาวีฟปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ผ่านเมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งเรียกร้องให้หยุดยิงในฉนวนกาซา
การโจมตีทางอากาศของรัฐบาลอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (10 ส.ค.) ได้จุดชนวนให้เกิดกระแสประณามจากนานาชาติอีกครั้ง โดยสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีโรงเรียนที่กลายมาเป็นสถานสงเคราะห์เป็นครั้งที่ 21 นับตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา
อินโดนีเซียยังร่วมเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ "ดำเนินการสืบสวนอย่างครอบคลุมทันที" ต่อการสังหารหมู่ที่โรงเรียนอัลตาบีอีน
กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียกล่าวว่า “อินโดนีเซียเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมมือกันหยุดยั้งอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่กระทำโดยอิสราเอล” “อิสราเอลต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมทั้งหมดเหล่านี้ และต้องยุติการละเว้นโทษทุกรูปแบบ”
ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ ระบอบการปกครองอิสราเอลได้เปิดฉากสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา โดยบังคับใช้การปิดล้อมดินแดนปาเลสไตน์อย่างรุนแรงด้วยการปิดกั้นการเข้าถึงการช่วยเหลือ น้ำดื่ม ยารักษาโรค และไฟฟ้าเข้าสู่พื้นที่ฉนวนกาซา
สงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของกองกำลังอิสราเอลในฉนวนกาซาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566เป็นต้นมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 40,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราว 91,000 ราย
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่