สหรัฐฯ ประกาศเริ่มขายอาวุธร้ายแรงให้ซาอุดิอาระเบียอีกครั้ง
Powered by OrdaSoft!
No result.
สหรัฐฯ ประกาศเริ่มขายอาวุธร้ายแรงให้ซาอุดิอาระเบียอีกครั้ง

รายงานระบุว่า ริยาดมีความกังวลเกี่ยวกับการเข้าไปพัวพันกับสงครามครั้งใหม่ในเยเมน ซึ่งซาอุดีอาระเบียเคยถูกห้ามเมื่อหลายปีก่อนด้วยข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชน

    สหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันจันทร์ ( 12 ส.ค.) ว่า จะกลับมาส่งอาวุธร้ายแรงให้กับซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง ซึ่งซาอุดีอาระเบียเคยถูกห้ามเมื่อหลายปีก่อนเพราะข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชนในเยเมน

    ผู้ช่วยสมาชิกรัฐสภากล่าวกับรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์ว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้สรุปการตัดสินใจดังกล่าวให้รัฐสภาทราบในสัปดาห์นี้

    นโยบายที่มีอายุ 3 ปี ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองรัฐบาลเสื่อมถอยลง และเวดันต์ ปาเทล โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ซาอุดีอาระเบีย "ได้บรรลุข้อตกลงในส่วนของตนแล้ว และเราพร้อมที่จะบรรลุตามข้อตกลงของเรา"

    เวดันต์ ปาเทล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ซาอุดีอาระเบียยังคงเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯ และเราหวังที่จะเสริมสร้างความร่วมมือนี้"

    ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจห้ามการส่งออกสินค้าที่มุ่งเป้าเพื่ออำนวยความสะดวกต่อข้อตกลงระหว่างริยาดและซานา แต่รัฐบาลเยเมนในซานาได้กล่าวหาสหรัฐฯ ว่าขัดขวางข้อตกลงครอบคลุมขั้นสุดท้าย

    สิ่งที่น่าสังเกตก็คือรัฐบาลของไบเดนได้เปิดฉากรุกรานเยเมนด้วยการยิงขีปนาวุธ Tomahawk โจมตีภาคพื้นดินมากกว่า 135 ลูก และโจมตีทางอากาศ 7 ครั้งในประเทศเยเมนนั้น ซึ่งมีการใช้ขีปนาวุธและระเบิดอย่างน้อย 420 ลูกในการโจมตีเยเมน

    สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดจนกลายเป็นความขัดแย้งโดยตรงกับกลุ่มต่อต้านในเยเมน

    ความกังวลของราชอาณาจักรนี้เพิ่มมากขึ้นหลังจากการขยายการปฏิบัติการของกลุ่มต่อต้านในเยเมนซึ่งเพิ่งโจมตีอิสราเอล และขู่ว่าจะโจมตีซาอุดีอาระเบียเกี่ยวกับแผนการที่จะทำสงครามเศรษฐกิจกับพวกเขา

    รายงานระบุว่า ริยาดมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งครั้งใหม่ในเยเมน แหล่งข่าวใกล้ชิดกับกลยุทธ์ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียเรียกร้องให้รัฐบาลเยเมนที่ได้รับการยอมรับจากชาติตะวันตกและธนาคารกลางพิจารณาแนวทางใหม่เพื่อทำให้ซานาอ่อนแอลง

    ซาอุดีอาระเบียได้ออกมาเตือนว่า พวกเขาอาจตัดการสนับสนุนทางเศรษฐกิจและการทหารแก่รัฐบาลที่พวกเขาสนับสนุน หากการกระทำเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่รัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากริยาดอาจต้องเผชิญเพียงลำพัง

    หนังสือพิมพ์ Politico เผยการรุกรานเยเมนที่ล้มเหลวและยืดเยื้อทำให้สหรัฐฯ สูญเสียเงินนับพันล้านดอลลาร์

    ตามที่หนังสือพิมพ์ Politico รายงาน ปฏิบัติการทางทะเลและทางอากาศของสหรัฐฯ ในทะเลแดงกลายเป็นปฏิบัติการทางทหารที่ยั่งยืนที่สุดของกองกำลังอเมริกัน นับตั้งแต่ที่กองกำลังผสมเปิดฉากโจมตีไอซิสในอิรักและซีเรียระหว่างปี 2559-2562

    กองกำลังสหรัฐฯ ได้ยิงขีปนาวุธเกือบ 800 ลูก และโจมตีทางอากาศ 7 ครั้งในเยเมนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 โดยส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีและเรือรบไปปกป้องผลประโยชน์ของอิสราเอลในภูมิภาค

    หนังสือพิมพ์ฉบับนี้รายงานว่า การสู้รบที่เกิดขึ้นในทะเลแดงได้กลายเป็นปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ที่ยาวนานและกว้างขวางที่สุดที่อยู่ระหว่างดำเนินการในปัจจุบัน ซึ่งเสี่ยงต่อการ "สูญเสียอาวุธยุทโธปกรณ์" ที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อยากได้ไว้ใช้ในการทำสงครามกับจีนในแปซิฟิกมากกว่า

    กองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีที่ 12 ขยายเวลาประจำการอีกสองครั้งในช่วงเก้าเดือนในทะเลแดง ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธโจมตีภาคพื้นดิน Tomahawk กว่า 135 ลูก โดยมีราคาอยู่ระหว่าง 2 ล้านถึง 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อขีปนาวุธหนึ่งลูก ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายรวมตั้งแต่อย่างน้อย 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปจนถึงกว่า 540 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    ขีปนาวุธมาตรฐานของสหรัฐฯ ที่ใช้ทำลายโดรนโจมตีราคาถูกยังมีต้นทุนการจัดหาหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกด้วย โดยหนังสือพิมพ์ Politico รายงานว่า ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น มีการใช้ขีปนาวุธมาตรฐานประเภทต่าง ๆ มากถึง 155 ลูก เครื่องบิน F-18 ที่ประจำการบนเรือUSS Dwight D. Eisenhower ยิงขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ 60 ลูก และอาวุธอากาศสู่พื้น 420 ลูก


ที่มา : สำนักข่าวอัลมายาดีน

Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 808 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

21504629
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
12858
45608
222131
20904429
989166
2496676
21504629

พฤ 19 ก.ย. 2024 :: 08:11:32