โคลอมเบียได้อนุมัติอย่างเป็นทางการให้ห้ามส่งออกถ่านหินไปยังอิสราเอล เพื่อลงโทษต่อสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาที่ดำเนินมานาน 10 เดือน
ประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร แห่งโคลอมเบีย แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (18 ส.ค.) ว่า “ถ่านหินของโคลอมเบียถูกนำมาใช้ในการผลิตระเบิดที่สังหารเด็กชาวปาเลสไตน์”
ด้วยเหตุนี้ การ “ส่งออกถ่านหินชนิดเชื้อเพลิงให้ความร้อน (Thermal Coal) ไปยัง…อิสราเอล” จึงถูกห้าม ตามพระราชกฤษฎีกาที่ลงนามโดยคณะรัฐมนตรี รวมถึงนายกรัฐมนตรีหลุยส์ จิลแบร์โต มูริลโล เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม และจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า
โคลอมเบียเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ถ่านหินรายใหญ่ที่สุดของอิสราเอล
ตามรายงานของบลูมเบิร์ก ประธานาธิบดีเปโตรได้ลงนามในกฤษฎีกาห้ามการส่งออกถ่านหินไปยังอิสราเอล โดยกฤษฎีกาดังกล่าวเผยแพร่บนเว็บไซต์ของประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเปโตรยังประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลและยุติการซื้ออาวุธจากอิสราเอลเมื่อต้นปีอีกด้วย
โคลอมเบียยังเข้าร่วมยื่นฟ้องในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่ออิสราเอล ซึ่งนำเสนอโดยแอฟริกาใต้ในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศด้วย
กลุ่มฮามาส ขบวนการต่อต้านของชาวปาเลสไตน์แสดงความชื่นชมประธานาธิบดีเปโตรที่ยืนยันการตัดสินใจของประเทศในการห้ามส่งออกถ่านหินไปยังอิสราเอล
ฮามาสกล่าวในแถลงการณ์ที่ออกเมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า "เราขอแสดงความขอบคุณต่อจุดยืนอันกล้าหาญของสาธารณรัฐโคลอมเบียในการยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับกลุ่มไซออนิสต์ เพื่อประณามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่กลุ่มยึดครองของไซออนิสต์กำลังก่อขึ้นต่อประชาชนของเราในฉนวนกาซา"
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุเพิ่มเติมว่า “เราขอเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ทั้งหมดตัดความสัมพันธ์กับองค์กรฟาสซิสต์นี้ และดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อคว่ำบาตร โดดเดี่ยว และบังคับใช้การคว่ำบาตรต่อองค์กรนี้ และดำเนินคดีกับผู้นำขององค์กรนี้ ในฐานะอาชญากรสงครามในศาลระหว่างประเทศ”
ตามที่รัฐบาลโคลอมเบียระบุ คำสั่งห้ามการส่งออกถ่านหินจะมีผลบังคับใช้ 5 วันหลังจากที่คำสั่งดังกล่าวได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ประมุขแห่งรัฐโคลอมเบียกล่าวว่า ประเทศได้ตัดสินใจตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับระบอบอิสราเอลเนื่องจากสงคราม
“และพวกเราที่อยู่ตรงหน้าพวกคุณ รัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ ขอแจ้งว่า พรุ่งนี้ความสัมพันธ์ทางการทูตกับระบอบอิสราเอลจะถูกตัดขาด” มูริลโลกล่าวในขณะนั้น และเสริมว่า "[เราตัดความสัมพันธ์ทางการทูต] เนื่องจากพวกเขามี...ประธานาธิบดีผู้ก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”
ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่กินเวลานานกว่า 10 เดือนได้ทะลุหลัก 40,000 รายไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของรัฐบาลอิสราเอลอีกกว่า 92,000 ราย
ความหิวโหย ภาวะทุพโภชนาการ และการขาดแคลนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ยังส่งผลกระทบต่อประชากรชาวปาเลสไตน์อีกด้วย
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่