กระทรวงการต่างประเทศและผู้อพยพของซีเรียวิพากษ์วิจารณ์ข้ออ้างที่ "ไร้ความหมาย" ของอิสราเอลเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงนโยบายขยายปฏิบัติการทางทหารและความตั้งใจที่จะหยุดยั้งการล้างเผ่าพันธุ์ต่อประชาชนชาวปาเลสไตน์
ในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ ( 31 ส.คง) กระทรวงการต่างประเทศชีเรียได้ประณามการ "ก่อเหตุรุนแรง" ต่อชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์และอัลกุดส์ (เยรูซาเลม) โดยอิสราเอลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และประณามการสนับสนุนของสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกอื่น ๆ ที่ให้ระบอบการปกครองดำเนินการทางอาญาต่อไป
กระทรวงการต่างประเทศซีเรียกล่าวว่า “ซีเรียยืนยันว่าการที่กลุ่มไซออนิสต์ก่อเหตุสังหารหมู่ในเขตเวสต์แบงก์เพิ่มขึ้นนั้น เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงเจตนาที่จะกวาดล้างชาวปาเลสไตน์ ไม่ว่าจะอยู่ในเขตเวสต์แบงก์หรือฉนวนกาซา ซึ่งเป็นการสนองตอบภาพลวงตาทางประวัติศาสตร์อันเป็นเท็จ”
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า นโยบายของสหรัฐฯ และชาติตะวันตกที่สนับสนุนอิสราเอลนั้นไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ชาวปาเลสไตน์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังนำไปปฏิบัติในทุกส่วนของโลกที่ผู้นำชาติตะวันตกไม่พอใจอีกด้วย
แถลงการณ์ดังกล่าวเน้นย้ำว่า ซีเรียประณามนโยบายของชาติตะวันตกเหล่านี้ และการโจมตี ตลอดจนอาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ก่อขึ้นโดยระบอบการปกครอง “เหยียดเชื้อชาติ” ของอิสราเอล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ
ในแถลงการณ์ยังเน้นย้ำเพิ่มเติมถึงความสำคัญของการยุติการกระทำผิดกฎหมายของอิสราเอลทันที เนื่องจากการกระทำดังกล่าว “ถือเป็นการแนะนำโลกใหม่ที่ชาติตะวันตกกำลังพยายามที่จะสร้างขึ้น”
กระทรวงยังเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่เชื่อมั่นในอำนาจอธิปไตยและสิทธิอันชอบธรรมของรัฐ ยืนหยัดต่อต้านนโยบายที่ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อทุกส่วนของโลกทั้งในระดับการเมือง กฎหมาย และเศรษฐกิจ
หลังจากการโจมตีหลายเดือนที่เกิดขึ้นควบคู่กับสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา อิสราเอลยังคงเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองต่อชาวปาเลสไตน์
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่