นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล อ้างว่า ตนเป็นผู้สั่งการให้จุดชนวนระเบิดอุปกรณ์สื่อสารจำนวนหลายพันเครื่องทั่วเลบานอน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายพันคน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
โอเมอร์ โดสตรี โฆษกสำนักงานนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลอ้างถึงคำกล่าวสุนทรพจน์ของเนทันยาฮูเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) เพื่อยุติความพยายามที่ยืดเยื้อในการขจัดความโหดร้ายของการฆาตกรรมของระบอบการปกครองและพันธมิตร
มีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ อย่างน้อย 39 ราย รวมทั้งเด็ก 2 ราย และอีกกว่า 3,400 ราย ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ตกอยู่ในสภาพพิการ หลังจากมีการวางระเบิดล่วงหน้าในอุปกรณ์เพจเจอร์และวอล์กี้ทอล์กี้จำนวนมาก เมื่อวันที่ 18 และ 19 กันยายนที่ผ่านมา
ผู้เสียชีวิตมีสมาชิกขบวนการต่อต้านของฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนจำนวนมาก
เหตุระเบิดดังกล่าวทำให้เหยื่อพิการหลายราย ทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บที่ตาและแขนขา บาดแผลตั้งแต่แขนขาขาดไปจนถึงแผลถลอกที่ช่องท้องและรอยแผลในส่วนต่าง ๆ เกิดขึ้นหลังจากที่อุปกรณ์สื่อสารส่งสัญญาณเตือน เพื่อแจ้งข้อความที่เข้ามา
เบรุตประณามการโจมตีครั้งนี้ว่า "เป็นความโหดร้ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มุสตาฟา ไบราม รัฐมนตรีแรงงานของเลบานอน กล่าวว่า ประเทศของเขาได้ยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการต่อองค์การแรงงานระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (ILO) เกี่ยวกับเหตุระเบิดดังกล่าว
ความโหดร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของการรุกรานที่รุนแรงของระบอบการปกครองอิสราเอลต่อประเทศที่สังหารชาวเลบานอนไปแล้วอย่างน้อย 3,136 ราย นับตั้งแต่การรุกรานเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ได้แก่ อดีตเลขาธิการของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ซัยยิด ฮัสซัน นัสรุลลอฮ์ และบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ อีกหลายคนในขบวนการกลุ่มนี้
ฮิซบุลลอฮ์ได้ตอบโต้ด้วยการจัดปฏิบัติการป้องกันหลายร้อยครั้งต่อดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง
กลุ่มฮิซบุลลอฮ์ให้คำมั่นว่า จะโจมตีต่อไปตราบใดที่รัฐบาลอิสราเอลจะยังคงรุกราน
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่