นายพลนักรบผู้พลีชีพ กอเซ็ม สุไลมานี สามารถรวมกลุ่มต่อต้านทั้งหมดเข้าด้วยกันเป็นแกนต่อนต้านและเปลี่ยนให้กลายเป็นกองกำลังที่ทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถเปลี่ยนสมดุลของอำนาจในภูมิภาคได้

     นายพล กอเซ็ม สุไลมานี เป็นผู้บัญชาการทหารคนแรกของโลกที่ตอบสนองต่อคำร้องขอของรัฐบาลซีเรียและอิรัก โดยเข้าร่วมในสนามรบที่มีความเสี่ยงสูง

    ด้วยความสามารถทางการทหารของเขา เขาได้รวบรวมและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค กระตุ้นแนวร่วมต่อต้านในหลายประเทศ และสร้างกรอบการบริหารจัดการใหม่ผ่านการระดมพล ซึ่งนำไปสู่การพ่ายแพ้ของยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในภูมิภาค

    ด้วยการทำให้ผู้ก่อการร้ายตักฟีรีที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาและระบอบไซออนิสต์ ปลดปล่อยเมืองโมซูลในอิรัก และเอาชนะกลุ่มก่อการร้ายไอซิสได้ เขาได้อุทิศความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่ประเทศต่าง ๆ และรัฐบาลในภูมิภาค และแม้แต่เหนือภูมิภาคด้วยซ้ำ

    “ผู้พลีชีพแห่งอัลกุดส์” มีบทบาทสำคัญในการสร้างสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ต่อสู้กับการก่อการร้ายกลุ่มตักฟีรี ขับไล่ภัยคุกคามจากไอซิสสจากชายแดนอิหร่าน ขัดขวางแผนการของสหรัฐฯ ในภูมิภาค เสริมสร้างแกนแห่งการต่อต้าน ขยายขอบเขตทางภูมิศาสตร์ของการต่อต้าน และเคารพในอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติต่าง ๆ

    ตามคำกล่าวของผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กอเซ็ม สุไลมานี คือ “บุคคลผู้ต่อต้านระดับนานาชาติ”

การต่อต้านภัยคุกคามจากไอซิสจากชายแดนอิหร่าน

    เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ รวมถึงฮิลลารี คลินตัน และโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ เป็นผู้ฝึกอบรม จัดระเบียบ และจัดหายุทโธปกรณ์ให้กับกลุ่มไอซิส จากนั้น กลุ่มก่อการร้ายนี้จึงเริ่มปฏิบัติการในอิรักและซีเรีย โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินและอุดมการณ์จากซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

    เป้าหมายสูงสุดของไอซิส คือการทำให้อิหร่านไม่มั่นคงภายในประเทศ สร้างความไม่ปลอดภัยและการทำลายล้างตามแนวชายแดนและเมืองต่าง ๆ หลังจากยึดพื้นที่เหล่านี้ได้

    พลเอกกอเซ็ม สุไลมานี พร้อมด้วยสหายร่วมอุดมการณ์ “ผู้ปกป้องศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์” เข้าร่วมในการต่อสู้กับปีศาจร้ายที่อยู่ห่างจากชายแดนอิหร่าน และประสบความสำเร็จในการป้องกันภัยคุกคามจากกลุ่มก่อร้ายไอซิส ไม่ให้เข้าถึงสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้

การกำจัดกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในภูมิภาค

    ความพ่ายแพ้ของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในภูมิภาคและการรื้อถอนโครงสร้างของกลุ่มดังกล่าว

    ทิ้งไว้เพียงเศษซากของแนวคิดตักฟีรีสุดโต่ง ซึ่งจะถูกกำจัดในไม่ช้านี้ เป็นผลมาจากกลยุทธ์ ความเป็นผู้นำ และการบริหารจัดการของนายพลสุไลมานี ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคำสอนของอิมามโคมัยนี (รฮ.) และผู้นำการปฏิวัติอิสลาม

    เขาสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพต่าง ๆ ทั้งทางวัฒนธรรม การเมือง และจิตวิญญาณ เพื่อเผชิญหน้าและเอาชนะกลุ่มก่อการร้ายที่อันตรายที่สุดกลุ่มหนึ่งของศตวรรษ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากมหาอำนาจระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติที่ฉ้อฉลและหลอกลวง

    นายพล สุไลมานี ไม่เพียงแต่กำจัดภัยคุกคามทางการทหารและการก่อการร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่ออิหร่านและภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังบรรเทาภัยคุกคามระดับโลกที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากในแง่ของการกระทำรุนแรงและการก่อการร้ายอีกด้วย

การปราบปรามแผนการของสหรัฐฯ ในภูมิภาค

    แผนการ "ตะวันออกกลางที่ยิ่งใหญ่" ซึ่งวางแผนโดยสหรัฐอเมริกาและระบอบไซออนิสต์ พร้อมด้วยการสนับสนุนจากประเทศในยุโรปบางประเทศและซาอุดีอาระเบีย มีเป้าหมายเพื่อแบ่งซีเรียและอิรักออกเป็นรัฐเล็ก ๆ และเพื่อเป็นการตอบโต้ นายพลกอเซ็ม สุไลมานี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ได้ทำงานเพื่อรักษาและปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนและอำนาจอธิปไตยของประเทศเหล่านี้

    เขตแดนที่นายพลสุไลมานีกำหนดไว้ภายในภูมิศาสตร์ของการต่อต้านได้ขัดขวางแผนการของสหรัฐฯ และระบอบไซออนิสต์ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มอำนาจให้กับผู้ก่อการร้ายตักฟีรีและไอซิส

นายพลสุไลมานีปกป้องอำนาจอธิปไตยของอิรัก ส่งผลให้อำนาจแห่งชาติของอิรักมีความมั่นคง

    สหรัฐฯ พยายามแบ่งอิรักออกเป็นสามส่วน ได้แก่ ดินแดนของชาวเคิร์ด ชีอะห์ และซุนนี นับตั้งแต่สหรัฐฯ เข้ามาในภูมิภาคนี้ การอภิปรายเกี่ยวกับการแตกแยกและการละเมิดอำนาจอธิปไตยของอิรักก็ถูกผลักดันต่อไป

    เพื่อป้องกันการแพร่กระจายและการรับรู้ถึงความเสียหายในภูมิภาคนี้ และปกป้องการแตกสลายของดินแดนอิรัก ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยและปัญหาความมั่นคงและชาติพันธุ์มากมายสำหรับเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอิหร่าน ชะฮีด สุไลมานี พยายามจัดการกับปัญหานี้อย่างครอบคลุมและสมบูรณ์ โดยใช้ศักยภาพ สิ่งอำนวยความสะดวก และโอกาสต่าง ๆ มากมายในด้านการทหาร การเมือง และการทูต

การรวมประเทศในภูมิภาคภายในแกนต่อต้าน

    ความสำเร็จที่สำคัญประการหนึ่งของนายพลสุไลมานีคือการรวมชาติต่าง ๆ ในภูมิภาคให้เป็นแนวร่วมเดียวกันเพื่อปกป้องเอกลักษณ์ การดำรงอยู่ และบูรณภาพแห่งภูมิภาค

    เขาประสบความสำเร็จในการนำประเทศเหล่านี้มารวมกันเพื่อก่อตั้งแกนแห่งการต่อต้าน

    ด้วยความพยายามอันโดดเด่นและบุคลิกภาพที่ไม่ธรรมดาของเขา นายพลอกสุไลมานีจึงสามารถรวมประเทศต่าง ๆ ที่มีแนวโน้มจะตกอยู่ในอันตรายจากความเย่อหยิ่งและระบอบการปกครองไซออนิสต์ให้เป็นหนึ่ง และต่อสู้กับความปรารถนาที่มากเกินไปที่จะครอบงำภูมิภาคนี้ของประเทศเหล่านี้

    ความพยายามของเขาก่อให้เกิดความสามัคคีและความสามัคคีในหมู่เลบานอน อิหร่าน ปากีสถาน อัฟกานิสถาน และอิรัก ในการต่อสู้กับภัยคุกคาม ความสำเร็จที่ไม่มีใครทัดเทียมในประวัติศาสตร์อิสลามและประวัติศาสตร์โลกนี้ได้เปลี่ยนแกนแห่งการต่อต้านให้กลายเป็นแนวร่วมและนำเสถียรภาพและความมั่นคงมาสู่ภูมิภาค

    หากไม่ได้จัดตั้งแกนต่อต้านนี้ขึ้น กองกำลังจักรวรรดินิยมอาจบรรลุเป้าหมายในภูมิภาคนี้ได้ และเอเชียตะวันตกอาจมีภูมิศาสตร์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับลัทธิไซออนิสต์ระดับโลก เพื่อสนองผลประโยชน์และวัตถุประสงค์ของพวกเขา

การเปลี่ยนแปลงสมดุลอำนาจเพื่อสนับสนุนขบวนการต่อต้านในภูมิภาค

    นายพลสุไลมานีได้เสริมสร้างและขยายรากฐานทางอุดมการณ์ของกลุ่มต่อต้าน ด้วยการเกิดขึ้นของกลุ่มต่าง ๆ เช่น ไอซิสในภูมิภาค กลุ่มก่อการร้ายนี้จึงมุ่งหวังที่จะควบคุมชะตากรรมและพลวัตทางอำนาจของพื้นที่ผ่านอุดมการณ์และการกระทำของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ด้วยวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ การปรากฏตัวในพื้นที่ และความพยายามอย่างไม่ลดละ นายพลสุไลมานีได้มองเห็นภาพอนาคตของภูมิภาคนี้ได้อย่างแม่นยำ

    ด้วยการรวมชาติต่าง ๆ ที่มีเชื้อชาติและภาษาที่แตกต่างกันเข้าด้วยกัน เขาได้บริหารจัดการพวกเขาอย่างมีประสิทธิผล และอำนวยความสะดวกในการก้าวหน้าทางวิวัฒนาการของแกนต่อต้าน อีกทั้งยังขยายและขยายอิทธิพลทางภูมิศาสตร์เพื่อให้มั่นใจถึงเสถียรภาพและความปลอดภัยของภูมิภาค

    แม้แต่ศัตรูก็ยังยอมรับว่า ตั้งแต่เหตุการณ์ในปี 2011 เป็นต้นมา กองกำลังต่อต้านได้พัฒนาเป็นขบวนการต่อต้านอย่างเต็มตัว และในที่สุดก็กลายเป็นแนวร่วมต่อต้านที่เป็นหนึ่งเดียว ปัจจุบัน กองกำลังต่อต้านในภูมิภาคเติบโตแข็งแกร่งและแพร่หลายมากจนซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ซื้อยุทโธปกรณ์ทางทหารรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก สูญเสียการริเริ่มในการทำสงครามกับกลุ่มอันซอรุลลอฮ์และชาวเยเมน ทำให้ตนเองอยู่ในสถานะที่อ่อนแอ

    ความเป็นจริงนี้เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงในดุลอำนาจที่เอื้อต่อขบวนการต่อต้านในภูมิภาค

ที่มา : สำนักข่าว mehrnews

Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่