ในวันแรกหลังจากการหยุดยิงมีผลบังคับใช้เมื่อวันอาทิตย์ กลุ่มต่อต้านของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาก็ได้ปล่อยตัวนักโทษหญิง 3 คนแรก และส่งมอบให้กับกองทัพอิสราเอลโดยสภากาชาด
ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้เมื่อเวลา 11.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น (09.15 น. GMT) ของวันอาทิตย์ หลังจากล่าช้าไปไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากอิสราเอลกล่าวหาฮามาสว่าทำให้การปล่อยตัวนักโทษที่ถูกกำหนดปล่อยตัวล่าช้าออกไป ตามข้อตกลงดังกล่าวที่มีกำหนดไว้จะเริ่มในเวลา 8.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (06.30 น. GMT)
ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ มีผู้เสียชีวิตเกือบ 47,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 110,700 ราย จากสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2566
ขบวนการต่อต้านกาซาปล่อยนักโทษสามคนแรก
กลุ่มฮามาส ขบวนการต่อต้านของชาวปาเลสไตน์ได้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุม 3 คนแรก และส่งมอบให้กับกองทัพอิสราเอลโดยสภากาชาด
สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอลยืนยันว่า โรมี โกเนน อายุ 24 ปี เอมิลี่ ดามารี อายุ 28 ปี และโดรอน สไตน์เบรเชอร์ อายุ 31 ปี อยู่ในการดูแลของกองกำลังอิสราเอลแล้ว
โฆษกกองกำลัง อัลก็อซซามกล่าวสุนทรพจน์สด
กองกำลังอัลก็อซซามกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า อบู อูบัยดะฮ์ โฆษกของกองกำลังจะรายงานสดในเวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ผ่านช่อง Telegram ของกลุ่ม
สภากาชาดเริ่มดำเนินการรับตัวผู้ถูกคุมขัง
ตามรายงานของช่อง 12 ของอิสราเอล และอัลจาซีรา รายงานว่า คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เริ่มขั้นตอนรับตัวผู้ถูกคุมขัง 3 คน ในฉนวนกาซาแล้ว
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการดังกล่าวยังกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ทีม ICRC ในฉนวนกาซากำลังเดินทางไปรับตัวผู้ถูกกักขัง
รายงานระบุว่า คาดว่าเจ้าหน้าที่กาชาดจะนำเชลยหญิงเหล่านี้ไปที่หน่วยพิเศษของกองทัพในกาซา จากนั้นจึงนำตัวพวกเธอไปยังฐานทัพในอิสราเอลใกล้กาซาเพื่อตรวจสุขภาพเบื้องต้น ก่อนจะส่งตัวไปที่โรงพยาบาล ซึ่งพวกเธอจะได้พบกับครอบครัว
รถบรรทุกความช่วยเหลือโครงการอาหารโลก เริ่มข้ามเข้าสู่ฉนวนกาซา :
หน่วยงานอาหารของสหประชาชาติระบุว่า รถบรรทุกที่บรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเริ่มเข้าสู่ฉนวนกาซาจากจุดผ่านแดน คาเรม อาบู ซาเล็ม (ซึ่งชาวอิสราเอลเรียกว่า Kerem Shalom) ในทางใต้และอีกจุดผ่านแดนหนึ่งในเมือง ซิคิม ทางเหนือ
องค์กรดังกล่าวระบุว่า รถบรรทุกคันแรกจะบรรทุกแป้งสาลีและอาหารพร้อมรับประทาน “เพื่อผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน” และเสริมว่า มีเป้าหมายที่จะส่งมอบอาหารเป็นประจำทุกวันโดยใช้เส้นทางจากอียิปต์ จอร์แดน และอิสราเอล
“การหยุดยิงครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตอบสนองด้านมนุษยธรรม ความปลอดภัยและการเข้าถึงต้องได้รับการดูแล”
วิดีโอ: ฮามาสเผยแพร่คลิปวิดีโอประกาศชัยชนะ :
ภายหลังการหยุดยิงในฉนวนกาซาและการถอนตัวของระบอบไซออนิสต์อิสราเอลจากฉนวนกาซา ขบวนการต่อต้านของฮามาสได้ปล่อยเพลง "Victory Declaration" (คำประกาศชัยชนะ)
รถบรรทุกความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซาผ่านด่านเอเรซที่เบตฮานูน :
สำนักข่าว Anadolu รายงานว่า รถบรรทุกความช่วยเหลือเตรียมเข้าสู่ฉนวนกาซาที่กำลังได้รับผลกระทบจากสงคราม ขณะที่การหยุดยิงมีผลบังคับใช้ โดยองค์การ UNRWA ระบุว่า รถบรรทุก 4,000 คัน พร้อมสำหรับการส่งมอบ
หน่วยงานของสหประชาชาติระบุในบัญชีแพลตฟอร์ม X ว่า “UNRWA มีรถบรรทุกความช่วยเหลือ 4,000 คัน พร้อมที่จะเข้าสู่ฉนวนกาซา โดยครึ่งหนึ่งของรถบรรทุกเหล่านั้นบรรทุกอาหารและแป้ง”
นายฟิลิป ลาซซารินี กรรมาธิการใหญ่แห่งองค์การ UNRWA เตือนว่า การโจมตีขบวนรถช่วยเหลือในฉนวนกาซา "อาจลดลง เนื่องจากความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้ามาภายหลังการหยุดยิง"
ฮามาสเตรียมปล่อยตัวนักโทษ 3 รายวันนี้ :
สำนักข่าว France 24 รายงานว่า ขณะที่การหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ที่ต่อต้านในฉนวนกาซามีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) ครอบครัวของหญิงสาวชาวอิสราเอลที่ถูกกักขัง 3 คนกำลังรอการปล่อยตัวสมาชิกของพวกเขา
ฮามาสกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ได้ส่งมอบรายชื่อของผู้ต้องขังหญิงทั้ง 3 คนให้กับผู้ไกล่เกลี่ยการหยุดยิงแล้ว
เอมิลี่ ดามารี หญิงชาวอังกฤษเชื้อสายอิสราเอล อยู่ในกลุ่มผู้ต้องขัง 3 คนแรกที่กลุ่มฮามาสวางแผนจะปล่อยตัวในวันนี้ (วันอาทิตย์ ที่19 ม.ค.) ตามรายงานของสกายนิวส์ ส่วนผู้ต้องขังอีก 2 คน คือ โรมี โกเนน วัย 24 ปี และโดรอน สไตน์เบรเชอร์ วัย 31 ปี
ชาวปาเลสไตน์ที่พลัดถิ่นกลับมาสู่บ้านที่เหลืออยู่ของพวกเขา :
ครอบครัวชาวปาเลสไตน์ที่ต้องอพยพกลับบ้านเกิดของตน รวมทั้งในฉนวนกาซาทางตอนเหนือ ตอนกลาง และตอนใต้ หลังจากข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในช่วงเช้าของวันอาทิตย์
ตามที่อัลจาซีรารายงานว่า ชายชาวปาเลสไตน์ที่ต้องอพยพออกจากประเทศ ชื่อ อันวาร์ กล่าวว่า เขาหวังที่จะกลับไปยังราฟาห์ แม้ว่าจะมีรายงานมาว่าบ้านของเขาถูกทำลายในช่วงสงครามก็ตาม
“ผมจะไปที่นั่นและจะหาสถานที่ที่จะกางเต็นท์เพื่ออยู่อาศัยกับครอบครัวแปดคนของผม” เขากล่าวกับอัลจาซีราในเมืองข่านยูนิส
“ฉันต้องกลับบ้านเกิดเมืองนอนของฉัน ฉันต้องกลับไปที่ที่ฉันเกิด”
เขากล่าวว่า ช่วงหลายเดือนแห่งสงครามเป็นเหมือน “ฝันร้าย”
อันวาร์กล่าวว่า “มันเป็นฝันร้าย ฝันร้ายจริง ๆ เหมือนกับว่าเรากำลังฝันอยู่ แล้วก็ลุกขึ้นมาอีกครั้ง”
เขากล่าวว่า เขาและครอบครัวอาศัยอยู่ในเต็นท์เล็ก ๆ โดยไม่มีอาหารหรือน้ำเพียงพอ และราคาสินค้าก็สูง "อย่างน่ากลัว"
เขากล่าวว่า “ขอขอบคุณพระเจ้า ขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง และหวังว่าข้อตกลงหยุดยิงจะดำเนินต่อไป และจะไม่มีความยากลำบากใด ๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กำลังจะมาถึง และทุกอย่างจะเรียบร้อยดี”
ที่มา : สำนักข่าว mehrnews
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่