ขบวนการต่อต้านของฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนได้โจมตีเมืองเทลอาวีฟและไฮฟาในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองด้วยโดรนและขีปนาวุธพลีชีพ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวขีปนาวุธแม่นยำชนิดใหม่ ซึ่งกลุ่มเคลื่อนไหวนี้มุ่งหวังที่จะนำไปใช้ในการต่อสู้อย่างต่อเนื่องเพื่อต่อต้านระบอบการปกครองอิสราเอล

    ในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ ( 6 พ.ย.) กลุ่มดังกล่าวระบุว่า ได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศตอบโต้ "ด้วยฝูงบินโดรนโจมตีฐานทัพเบโล ซึ่งเป็นของกองพลร่มสำรองของกองพลที่ 98 ของกองทัพศัตรูอิสราเอลทางใต้ของเทลอาวีฟ เป็นครั้งแรก และสามารถโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ"

    ฮิซบุลลอฮ์กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการฆอยบัร์ ภายใต้สโลแกน "เรายินดีรับใช้คุณ โอ้ นัสรุลลอฮ์" ซึ่งหมายถึงอดีตเลขาธิการของขบวนการ ซัยยิด ฮัสซัน นัสรุลลอฮ์ ผู้เสียชีวิตระหว่างการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลอย่างหนักต่อกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เมื่อปลายเดือนกันยายน

    กลุ่มดังกล่าวกล่าวว่า การตอบโต้เกิดขึ้น "เพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ผู้มั่นคงของเราในฉนวนกาซา และสนับสนุนการต่อต้านอย่างกล้าหาญและมีเกียรติของพวกเขา และเพื่อปกป้องเลบานอนและประชาชนของประเทศนี้"

    ฮิซบุลลอฮ์ได้จัดการโจมตีลักษณะนี้หลายร้อยครั้งนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลอิสราเอลเปิดฉากสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา และเพิ่มความรุนแรงในการรุกรานเลบานอนอย่างรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด

    การโจมตีทางทหารอันโหดร้ายได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วอย่างน้อย 43,391 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ในขณะที่ความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นในเลบานอนได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 3,050 ราย

    นอกจากนั้น ขบวนการต่อต้านของเลบานอนยังประกาศเตรียมการโจมตีทางอากาศโดยใช้ฝูงบินโดรนโจมตีฐานทัพเรือไฮฟา ซึ่งมีเรือขีปนาวุธและเรือดำน้ำประจำการอยู่ในอ่าวไฮฟา

    กลุ่มดังกล่าวกล่าวว่า เช่นเดียวกับกรณีการโจมตีเทลอาวีฟ ปฏิบัติการต่อเมืองไฮฟาได้ดำเนินการ "เป็นครั้งแรกและโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ"

    นักรบของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ยังได้จัด "ปฏิบัติการที่ซับซ้อน" โจมตีฐานทัพเรือสเตลลามาริส ซึ่งเป็นฐานทัพยุทธศาสตร์ที่ใช้สำหรับการติดตามและเฝ้าระวังทางทะเลทางตะวันตกเฉียงเหนือของไฮฟา โดยมีการใช้ขีปนาวุธโจมตีและฝูงบินโดรน

    ขณะเดียวกัน สื่ออิสราเอลรายงานว่า ทหารอิสราเอลเสียชีวิต 1 นาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 10 นาย หลังจากที่กลุ่มฮิซบุลลอฮ์โจมตีนิคมที่ผิดกฎหมายในเขตอาวิวิม ทางตอนเหนือของดินแดนที่ถูกยึดครองด้วยการยิงจรวด

    การโจมตีครั้งนี้ยังทำให้ผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของอิสราเอลได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย โดยรายงานระบุว่า 3 ราย อยู่ในอาการสาหัส และทำให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในพื้นที่เป้าหมาย

    ตามรายงานของสำนักข่าว ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลคนหนึ่งยังถูกสังหารด้วยจรวดของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ทางตอนใต้ของเมืองอักกา ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของดินแดนด้วย

    ในแถลงการณ์อีกฉบับ ฮิซบุลลอฮ์รายงานว่า นักรบของตนได้โจมตีฐานอุตสาหกรรมทางทหารเซวูลุน ทางตอนเหนือของเมืองไฮฟา รวมถึงเมืองซาฟาดด้วยการยิงจรวด

    คลิปวิดีโอที่แพร่กระจายทางออนไลน์ยังแสดงให้เห็นรถถังเมอร์กาวา 4 ของอิสราเอล ซึ่งพลิกคว่ำ เป็นผลจากการยิงตอบโต้ของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ในหมู่บ้านมารูน อัล-ราส ทางตอนใต้ของเลบานอน ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยได้รับบาดเจ็บ

    ในวันพุธ (6 พ.ย.) ขบวนการอิซบุลลอฮ์ยังกล่าวอีกว่า Fateh (Conqueror)-110 ซึ่งเป็นขีปนาวุธพื้นสู่พื้นความแม่นยำสูง ที่ใช้โจมตีเป้าหมายสำคัญ ด้วยระยะความแม่นยำ 10 เมตร ได้บรรจุเข้าสู่กำลังอาวุธแล้ว ขณะที่ยังคงตอบโต้การรุกรานฉนวนกาซาและเลบานอนของระบอบการปกครองอิสราเอล

    ขีปนาวุธดังกล่าวสามารถบินได้ไกลถึง 300 กิโลเมตร (186 ไมล์) มีความสามารถในการทำลายล้างสูง สามารถยิงได้จากฐานแบบคงที่หรือแบบเคลื่อนที่ และใช้เชื้อเพลิงแข็งได้

    กระสุนปืนมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 616 มิลลิเมตร ยาว 8.8 เมตร น้ำหนัก 3,450 กิโลกรัม ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ขนาด 500 กิโลกรัม

    ฮิซบุลลอฮ์ให้คำมั่นว่า จะโจมตีต่อไปจนกว่าระบอบการปกครองอิสราเอลจะยุติสงครามในฉนวนกาซาและการรุกรานเลบานอน

ที่มา :  สำนักข่าวเพรสทีวี

Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่