ประเทศอาหรับหลายแห่ง ตลอดจนกลุ่มสามประเทศผู้ค้ำประกันการเจรจาที่กำลังเกิดขึ้นในกรุงอัสตานา เมืองหลวงของคาซัคสถาน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อคลี่คลายวิกฤตซีเรีย ต่างเตือนว่า ประเทศอาหรับแห่งนี้กำลังจะกลายเป็น “ความวุ่นวายและการก่อการร้าย” ในไม่ช้านี้
รัฐมนตรีต่างประเทศของกาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย จอร์แดน อียิปต์ และอิรัก ตลอดจนรัฐมนตรีต่างประเทศจากอิหร่าน รัสเซีย และตุรกี ซึ่งเป็น 3 ชาติที่สนับสนุนการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลซีเรียและกลุ่มฝ่ายค้าน ได้ออกแถลงการณ์ดังกล่าวในวันเสาร์ (7 ธ.ค.)
พวกเขาย้ำถึงความจำเป็นในการ "เริ่มกระบวนการทางการเมืองที่ครอบคลุม โดยยึดตามข้อมติ 2254 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อยุติการเพิ่มระดับความรุนแรงทางทหารซึ่งนำไปสู่การนองเลือดของผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีทางป้องกันตัวเองได้อีกต่อไป และยืดเยื้อวิกฤตการณ์" พวกเขากล่าวในตอนท้ายของการประชุมที่กรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์
มติที่ตกลงกันในปีพ.ศ. 2558 เรียกร้องให้หยุดยิงในซีเรีย ซึ่งถูกกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติยึดครองมาตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2554
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นกว่าหนึ่งสัปดาห์หลังจากกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติเริ่มปฏิบัติการติดอาวุธครั้งใหญ่เพื่อให้พวกเขากลับมามีอำนาจอีกครั้งทั่วประเทศอาหรับ
รายงานดังกล่าวระบุว่า การดำเนินการตามกระบวนการทางการเมืองดังกล่าวจะช่วย “รักษาเอกภาพ อธิปไตย เอกราช และบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย…และรับรองการส่งตัวผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นกลับโดยสมัครใจ”
ประเทศต่างๆ ระบุว่า การที่วิกฤตซีเรียยังคงดำเนินต่อไปนั้น ถือเป็นผลกระทบที่อันตรายต่อความปลอดภัยของประเทศ รวมถึงความมั่นคงในภูมิภาคและระหว่างประเทศ
พวกเขาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาทางการเมือง นอกเหนือจากการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความพยายามร่วมกันระหว่างประเทศที่มุ่งเน้นที่จะเพิ่มการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ประชาชนชาวซีเรีย
ในระหว่างการประชุมก่อนหน้านี้ นายอับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ก็ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการริเริ่มแนวทางทางการเมืองเพื่อรับมือกับวิกฤตซีเรียเช่นกัน
ตามที่นักการทูตชั้นสูงกล่าว ประเด็น “ที่สำคัญที่สุด” ที่ทั้งสองฝ่ายที่เข้าร่วมการประชุมเห็นพ้องต้องกันก็คือ “จะต้องเริ่มมีการเจรจาทางการเมืองระหว่างรัฐบาลซีเรียและกลุ่มฝ่ายค้านที่ถูกต้องตามกฎหมาย”
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่