การถึงแก่อสัญกรรมของจิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีคนที่ 39 ของสหรัฐฯ ทำให้เกิดการคาดเดาเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยพิธีการไว้อาลัยของรัฐบาลกลางช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
จิมมี่ คาร์เตอร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐระหว่างปี 1977 ถึง 1981 เสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วยวัย 100 ปี เกือบสองปีหลังจากเข้ารับการดูแลแบบประคับประคอง ตามแนวทางของรัฐบาลกลาง กำหนดให้ชักธงชาติครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน นับจากการเสียชีวิตของอดีตประธานาธิบดี ซึ่งประเพณีนี้ตรงกับช่วงพิธีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่สองของทรัมป์ ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 20 มกราคม
นักวิจารณ์ทรัมป์ รวมถึงพรรคเดโมแครตที่กล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับช่วงเวลาดังกล่าว โดยระบุว่า ช่วงเวลาดังกล่าวทำให้ความสำคัญของพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของเขาลดน้อยลงโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้สังเกตการณ์รายหนึ่งกล่าวว่า “ในวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ธงชาติจะถูกลดครึ่งเสา ซึ่งนั่นจะเป็นการดูถูกทรัมป์ในวันสำคัญของเขา” อีกรายเสริมว่า “ของขวัญชิ้นสุดท้ายจาก จิมมี คาร์เตอร์”
ผู้สนับสนุนทรัมป์ออกมาตอบโต้อย่างรุนแรง โดยบางคนกล่าวหาว่าพรรคเดโมแครตเลื่อนการประกาศข่าวการเสียชีวิตของคาร์เตอร์ออกไปเพื่อกลบข่าวนี้ ผู้สนับสนุนทรัมป์รายหนึ่งกล่าวหาบนโซเชียลมีเดียว่า “จังหวะเวลาดังกล่าวตั้งใจให้ธงชาติถูกลดครึ่งเสาในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง”
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศแผนจัดงานศพแบบรัฐในวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเป็นเกียรติแก่การรับใช้ตลอดชีวิตของคาร์เตอร์ “ประเทศชาติเป็นหนี้บุญคุณจิมมี่ คาร์เตอร์” ไบเดนกล่าว โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของเขาในฐานะเจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย และนักมนุษยธรรม
แม้ว่าทรัมป์จะเคยวิพากษ์วิจารณ์คาร์เตอร์มาก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ยังออกแถลงการณ์สั้น ๆ เพื่อยอมรับถึงคุณูปการของเขาที่มีต่อประเทศชาติ
แผนการจัดงานศพของคาร์เตอร์ยังไม่ได้รับการสรุปขั้นสุดท้าย แต่คาดว่าร่างของเขาจะถูกตั้งไว้ที่ Capitol Rotunda ในราววันที่ 6 มกราคม
ความบังเอิญระหว่างพิธีรำลึกถึงอดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์และพิธีเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ได้จุดชนวนให้เกิดการอภิปรายเกี่ยวกับจุดร่วมระหว่างการไว้อาลัยอดีตประธานาธิบดีและการยกย่องรัฐบาลใหม่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของประเพณีทางการเมืองของสหรัฐฯ
ที่มา : สำนักข่าวตัสนีม
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่