อิสราเอลอนุมัติการยึดครองที่ดินครั้งใหญ่ที่สุดในเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองในรอบกว่าสามทศวรรษ แม้จะมีแรงกดดันจากนานาชาติต่อการขยายการตั้งถิ่นฐานของระบอบการปกครองในปาเลสไตน์ก็ตาม
กลุ่มเฝ้าระวังการต่อต้านการตั้งถิ่นฐาน Peace Now กล่าวเมื่อวันพุธ (3 ก.ค.) ว่า เมื่อไม่นานนี้ เทลอาวีฟได้อนุมัติการจัดสรรที่ดินจำนวน 12.7 ตารางกิโลเมตร (เกือบ 5 ตารางไมล์) ในหุบเขาจอร์แดน
การยึดที่ดินซึ่งได้รับการอนุมัติเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ถือเป็นการจัดสรรที่ดินครั้งใหญ่ที่สุดที่ได้รับการอนุมัตินับตั้งแต่ข้อตกลงออสโลในปี ค.ศ. 1993
ข้อตกลงที่ลงนามระหว่างอิสราเอลและองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PLO) เมื่อ 30 ปีก่อนนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำมาซึ่งการกำหนดชะตากรรมของตนเองของชาวปาเลสไตน์ในรูปแบบของรัฐปาเลสไตน์
การยึดที่ดินครั้งล่าสุดของระบอบการปกครองอิสราเอลอาจส่งผลให้เกิดความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์เพิ่มมากขึ้น
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวว่า “กองกำลังอิสราเอล [ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2566] ได้ปล่อยคลื่นความรุนแรงอันโหดร้ายต่อชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง”
กองกำลังของระบอบการปกครองกล่าวว่า “กำลังก่อเหตุสังหารที่ผิดกฎหมาย รวมถึงใช้กำลังต่อชีวิตโดยไม่จำเป็นหรือใช้อย่างไม่สมส่วนระหว่างการประท้วงและบุกเข้าจับกุม และปิดกั้นความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ”
ตามรายงานขององค์กรฮิวแมนไรท์วอตช์ การโจมตีอย่างรุนแรงโดยทั้งกองกำลังของรัฐบาลอิสราเอลและผู้ตั้งถิ่นฐานที่อาศัยอยู่ในดินแดนปาเลสไตน์ ทำให้ชาวปาเลสไตน์ต้องอพยพออกจากชุมชน 20 แห่ง และทำให้ชุมชนอย่างน้อย 7 แห่งต้องถูกทำลายอย่างถอนรากถอนโคน นับตั้งแต่ที่อิสราเอลเริ่มโจมตีฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2566
มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 502 ราย ถูกสังหารในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2024 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่