สถานะของมารดาและความยิ่งใหญ่ของความทุกข์ทรมานที่นางต้องอดทนเพื่อลูกนั้น เป็นสื่อที่ทำให้จำเป็นต้องทำความรู้จักสถานะของมารดา ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ท่านอิมามซัจญาด (อ.) จึงกล่าวว่า : “สิทธิของมารดาของเจ้าคือการที่เจ้าจะรู้ว่านางได้อุ้มครรภ์เจ้ามาโดยที่ไม่มีบุคคลใดที่จะอุ้มครรภ์ใครเช่นนี้......
การทำดีต่อบิดามารดานั้นมีความสำคัญถึงขั้นที่แม้แต่การตั้งภาคี (ชิรก์) ต่อพระผู้เป็นเจ้าของบุคคลทั้งสองก็ไม่อาจเป็นอุปสรรคต่อการทำดีต่อพวกท่านได้ แม้จำเป็นที่จะต้องออกห่างจากความเชื่อต่างๆ ที่เป็นการตั้งภาคีต่อพระผู้เป็นเจ้าของพวกท่าน......
การผูกสัมพันธ์กับเครือญาติไม่ใช่แค่การไปเยี่ยมบ้านระหว่างเครือญาติเพียงเท่านั้น ทว่ามีตัวอย่างและวิธีการมากมาย ซึ่งตัวอย่างที่สมบูรณ์ที่สุดในประเด็นนี้ก็คือ การขจัดความต้องการและทำให้พวกเขามีความสุขก่อนบุคคลอื่นๆ.....
หนึ่งในคำสั่งที่สำคัญยิ่งของอิสลามคือคำสั่งในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับเครือญาติ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลที่ดีงามมากมายสำหรับมนุษย์ ส่วนหนึ่งจากผลที่ดีงามเหล่านี้คือการมีขุมกำลังที่สามารถจะให้การค้ำจุนและการสนับสนุนที่แข็งแกร่งแก่ตัวเรา....
การยืนหยัดต่อสู้ของฮูเซน บินอะลี (อ.) มิได้ให้ความสำคัญต่อเงื่อนไขการกำชับความดีและห้ามปรามความชั่วกระนั้นหรือ? ดังที่ได้อธิบายไปแล้วในภาคแรกของหนังสือนี้ว่า มีคำถามหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึง นั่นคือบรรดานักนิติศาสตร์และนักวิชาการแห่งอิสลามได้กำหนดเงื่อนไขในการกำชับความดีและห้ามปรามความชั่ว.......
ดังที่ท่านทั้งหลายได้อ่านไปแล้วในบทก่อนที่ว่า ท่านอิมาม (อ.) ได้เผชิญหน้ากับฮูร บินยาซีด และกองทหารของเขา ซึ่งเป็นกองทหารกลุ่มแรกที่ถูกส่งมาจากอิบนิซิยาด ณ ตำบล “ชะรอฟ” หลังจากการเสร็จสิ้นการนมาซดุฮ์ริและการกล่าวปราศรัยของท่านอิมาม (อ.) แล้ว ในนมาซอัซริก็เช่นกัน ทหารของทั้งสองฝ่ายได้นมาซภายใต้การนำของท่านอิมาม (อ.) ..
ท่านฮูเซน บินอะลี (อ.) กล่าวถึงบุคคลสองกลุ่มที่มีลักษณะตรงข้ามกัน และกล่าวถึงผู้นำสองประเภทไว้ในคำพูดของท่าน โดยอ้างอิงไปยังโองการอัลกุรอานสองโองการ โดยที่บุคคลแต่ละกลุ่มก็จะยึดถือปฏิบัติตามผู้นำหนึ่ง และจะได้รับแรงบันดาลใจในเรื่องของแนวคิดและทัศนคติต่างๆ จากผู้นำของตนเอง.....
อิบนิกะซีร ชาวดามัสกัส และอิบนะมา ได้เล่ารายงานจากชายชาวกูฟะฮ์ผู้หนึ่งโดยเขากล่าวว่า หลังจากที่ข้าพเจ้าประกอบพิธีฮัจญ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้ารีบเร่งกลับสู่เมืองกูฟะฮ์ และในระหว่างเส้นทางข้าพเจ้าได้เห็นค่ายพักจำนวนหนึ่ง ข้าพเจ้าสอบถามเจ้าของค่ายเหล่านั้น พวกเขาตอบว่าเต้นเหล่านี้เป็นของท่านฮูเซน บินอะลี (อ.)......
เมื่อท่านอิมามฮูเซน (อ.) มาถึงยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งมีนามว่า “ฮาญิร” ซึ่งอยู่บนเส้นทางสู่เมืองกูฟะฮ์ ท่านเขียนจดหมายฉบับหนึ่งไปถึงประชาชนชาวกูฟะฮ์ และเพื่อตอบจดหมายของมุสลิม บินอะกีล ซึ่งท่านได้ส่งเขาไปเป็นผู้ถือสาส์นคนหนึ่งของท่าน ซึ่งมีชื่อว่า “เกซ บินมัซฮัร ศอยดีวีย์”......
เป็นไปตามการรายงานของ ฏอบารีย์ และ อิบนิกะซีร โดยอ้างสายสืบไปยังอิมามซัจญาด (อ.) ว่า มีบุคคลสี่คนที่ได้เสนอแนะให้ท่านอิมามฮูเซน (อ.) เลิกล้มความตั้งใจในการเดินทางสู่แผ่นดินอิรัก และยืนกรานอย่างหนักแน่นในข้อเสนอนี้ นั่นก็คืออับดุลลอฮ์ บินญะอ์ฟัร......
คำเสนอแนะที่สาม เป็นคำเสนอแนะของน้องชายของท่าน คือ มุฮัมมัด บินฮานาฟียะฮ์ ที่ต้องการให้อิมาม (อ.) เลิกล้มการเดินทางสู่แผ่นดินอิรัก ซึ่งเรื่องราวมีดังต่อไปนี้ มุฮัมมัด ฮานาฟียะฮ์ เดินทางมาถึงนครมักกะฮ์ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะประกอบพิธีฮัจญ์และเพื่อพบกับท่านอิมามฮูเซน (อ.) ตามคำรายงานของท่านอัลลามะฮ์ฮิลลี่ (รฎ.) ท่านอยู่ในสภาพเจ็บป่วยอย่างรุนแรง......
คนที่ทำความชั่วและไม่ปฏิบัติตามคำบัญชาของพระผู้เป็นเจ้านั้น ในความเป็นจริงแล้วเขากำลังทำลายเนี๊ยะอ์มัต (ความโปรดปรานและปัจจัยอำนวยสุข) ต่างๆ ที่พระองค์ทรงประทานให้แก่เขา ทั้งนี้เนื่องจากบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เขาอาจจะกระทำความชั่วอย่างใดอย่างหนึ่งได้.....
มี 490 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์