ศาสดาวงศ์วานผู้ทรงเกียรติ

ศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ในมุมมองของนักวิชาการตะวันตก  ศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) คือแบบอย่างแห่งอุดมคติสำหรับชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความผาสุก ด้วยกับคำชี้นำสั่งสอนของท่านได้นำทางมนุษยชาติออกจากทางและหุบเหวแห่งความหายนะและความทุกข์ยาก มาสู่เส้นทางหลักของความผาสุกอันเป็นนิรันดร์ 

อิมามฮะซัน อัสกะรี (อ.) สัญลักษณ์แห่งคุณธรรม  อิมามฮะซัน อัสกะรีย์ (อ.) เป็นอิมาม (ผู้นำ) ถือกำเนิดในวันที่ 8 รอบีอุซซานี ฮ.ศ. 232 ท่านเป็นอิมามที่มีอายุที่แสนสั้น ท่านใช้ชีวิตทั้งหมด (28 ปี) อยู่ในค่ายทหารในเมืองซามัรรออ์ พร้อมกับท่านอิมามฮาดีย์ (อ.) บิดาของท่าน ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดของระบอบปกครองเผด็จการของราชวงศ์อับบาซียะฮ์ ท่านถูกคุมขังอยู่ในคุกโดยบรรดาผู้กดขี่แห่งยุคสมัยนั้น ระยะเวลาในการเป็นอิมามของท่านนั้นเพียงแค่ 6 ปี จนกระทั่งวันที่ 8 รอบีอุลเอาวัลท่านได้จากโลกนี้ไป

1 ร่อบีอุลเอาวัล เรื่องราวการอพยพของศาสดา (ซ็อลฯ)  การอพยพของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) จากมักกะฮ์ไปยังมะดีนะฮ์ หนึ่งในเรื่องราวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) คือเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ของการอพยพ (ฮิจญ์เราะฮ์) ของท่านและบรรดาสาวก (ซอฮาบะฮ์) ของท่าน จากมักกะฮ์ไปยังมะดีนะฮ์ ดังที่ในคัมภีร์อัลกุรอานบทอัลอันฟาล โองการที่ 30 และในบทอัลบะกอเราะฮ์ โองการที่ 207 ได้ชี้ถึงเรื่องนี้ไว้

ศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ความเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้า ตอนที่ 1  พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่งได้ทรงแต่งตั้งบรรดาศาสดา (นบี) และศาสนทูต (ร่อซูล) ของพระองค์มายังมนุษยชาติเพื่อชี้นำทางพวกเขาไปสู่ความ สมบูรณ์ (กะมาล) และความผาสุกไพบูลย์ (ซะอาดะฮ์) ในชีวิตของพวกเขา โดยที่ถ้าหากพระองค์มิได้ส่งบรรดาศาสดาลงมาแล้วเป้าหมายและเจตนารมณ์ในการสร้างมนุษย์ขึ้นมาย่อมไม่บรรลุสู่ความเป็นจริงของมันได้

อิมามริฎอ (อ.) ผู้แผ่ขยายความรู้จากอะฮ์ลุลบัยต์สู่การฟื้นฟูวิชาการในยุคสมัย  ท่านอิมามริฎอ (อ.) นั้น ทั้งในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ในนครมะดีนะฮ์มุเนาวะเราะฮ์ และในช่วงที่ท่านอพยพไปสู่เมืองมัรว์ เมืองหลวงของแคว้นคูราซานนั้น ท่านได้ทำหน้าที่สนองตอบต่อผู้ที่กระหายทางวิชา การแสวงหาความรู้และการรู้จัก (มะอ์ริฟะฮ์) พระผู้เป็นเจ้าอยู่ตลอดเวลา ท่านอิมาม (อ.) ได้กล่าวว่า “ขออัลลอฮ์ทรงเมตตาบ่าวผู้ที่ฟื้นฟูภารกิจของเรา”

การเป็นชะฮีดของอิมามฮะซัน มุจญ์ตะบา (อ.) ในรายงานของอะฮ์ลิซซุนนะฮ์  ตามคำรายงาน (ริวายะฮ์) จำนวนมากที่ปรากฏอยู่ในหนังสือต่างๆ ทั้งของชีอะฮ์และซุนนีนั้น มุอาวิยะฮ์ บุตรของอบีซุฟยาน ได้ส่งยาพิษไปให้ญะอ์ดะฮ์ ลูกสาวของอัชอัษ บินเกซ ผู้ซึ่งมีบทบาทหลักในทุกๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยของท่านอิมามอะลี (อ.) และมุอาวิยะฮ์ได้ให้คำมั่นสัญญากับญะอ์ดะฮ์ว่า หากนางสามารถสังหารอิมามฮะซัน (อ.) ได้ จะให้นางแต่งงานกับยะซีดลูกชายของตน

ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) เสียชีวิตโดยธรรมชาติหรือเป็นชะฮีด? ความคลุมเครือเกี่ยวกับการเสียชีวิต (วะฟาต) ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) หนึ่งในความอธรรมที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ได้รับภายหลังการจากไปของท่าน นั่นคือจวบจนถึงวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า ท่านเสียชีวิต (วะฟาต) โดยธรรมชาติ เนื่องจากความเจ็บป่วยหรือด้วยการเป็นชะฮีด ในขณะที่มุสลิมโดยทั่วไปจะรับรู้ว่า ท่านเสียชีวิตเนื่องจากความอาการป่วย แต่หากเราพิจารณาในบันทึกทางประวัติศาสตร์บางส่วนเราจะพบว่า มีการชี้ให้เห็นว่า ท่านได้เสียชีวิตอันเกิดจากผลของการถูกวางยาพิษโดยบรรดาศัตรูที่ปรารถนาจะดับรัศมี (นูร) แห่งพระผู้เป็นเจ้า

ความอธรรมของ มุตะวักกิ้ล ผู้ทำลายสุสานอิมามฮูเซน (อ.) และสั่งห้ามเยือน (ซิยาเราะฮ์) กัรบะลา  ในยุคสมัยของ มุตะวักกิ้ล ลูกชายของ มุอ์ตะซิม เป็นผู้ปกครอง (กาหลิบ) คนที่ 10 จากราชวงศ์อับบาซียะฮ์ ผู้ซึ่งชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย ความอธรรมและการกดขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อลูกหลานของท่านอิมามอะลี (อ.)......

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 116 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

27600029
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
635
10193
42969
27469174
53066
403390
27600029

พฤ 06 พ.ย. 2025 :: 01:17:33