การปกป้องตนเองจากความชั่วร้ายของบรรดาเยาวชนคนหนุ่มสาว ซึ่งในช่วงวัยนี้คือวัยแห่งความเบ่งบาน ความงดงาม หรือเป็นวัยที่จะต้องได้รับการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเมื่อเราพูดถึงคนในวัยนี้เราจะพบว่า พวกเขาจะมีความคิดเป็นของตัวเอง มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง จึงต้องพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล
อิมามซอดิก (อ.) กลว่าว่า ไม่มีสาเหตุใดๆ ที่จะมีอิทธิพลหรือมีอำนาจบีบบังคับให้พระองค์สร้างโลกนี้ขึ้นมา และเมื่อเหตุผลนั้นมิใช่เป็นสิ่งจำเป็นแล้ว ดังนั้นเมื่อมุวะหิด (ผู้ศรัทธาในพระเจ้า) คนหนึ่งคนใดจะกล่าวว่า พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างโลกนี้ขึ้นมาจากพระเมตตาธิคุณของพระองค์ จึงไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ขัดแย้งต่อหลักเอกภาพ (เตาฮีด) แต่อย่างใด
ในโลกนี้มีสิ่งที่ไม่สามารถสัมผัสได้และมิใช่สสารหรือวัตถุบ้างไหม ถ้ามีสิ่งดังกล่าวอยู่จริง อยากทราบว่าระหว่างโลกที่เร้นลับ โลกแห่งวัตถุ และความรู้สึกมีความสัมพันธ์กันอย่างไร และถ้าสิ่งเหล่านี้มีความสัมพันธ์กันจริง ถามว่า สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่มีสามารถสัมผัสได้ในฐานะผู้รังสรรค์โลกแห่งวัตถุหรือ
สิ่งที่ต้องการสร้างความเข้าใจกับท่านผู้อ่าน คือ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการของศาสนาประเภทเทวนิยม (หลักศรัทธาของอิสลาม) หรือที่เรียกว่าหลักอุซูลุดดีน แต่สิ่งจำเป็นที่ต้องทำความเข้าใจก่อนอันดับแรกคือ คำว่าศาสนา ในทัศนะของเทวนิยม เนื่องจากตามหลักตรรกศาสตร์แล้วจะเห็นว่ารากฐานสำคัญสำหรับการคิดคือ การอธิบายหรือการให้คำจำกัดความต่อสิ่งนั้นเป็นอันดับแรกก่อนอธิบายถึงเนื้อหาสาระ
ปรัชญาการละหมาดในอิสลาม การละหมาดและการสรรเสริญอัลลอฮ์ (ซบ.) พระผู้เป็นเจ้า คือการสื่อสารระหว่างมนุษย์และพระเจ้า ระหว่างสิ่งถูกสร้างกับพระผู้สร้างที่ใกล้ชิดที่สุด การละหมาดมอบความอบอุ่นและความสงบเยือกเย็นให้แก่หัวใจที่ถูกทำให้อ่อนล้ากระวนกระวายและปั่นป่วน
โดยสัญชาติญาณทางธรรมชาติแล้วมนุษย์ทุกคนมีความต้องการความสงบสุขและความสะดวกสบาย และหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้บรรลุในเรื่องนี้คือคุณลักษณะทางด้านจริยธรรมอันได้แก่ความพอเพียง (กอนาอะฮ์) ความรู้สึกพอเพียงในสิ่งที่ตนเองได้รับนั้น จะทำให้เขาสัมผัสกับความหวานชื่นของความพึงพอใจ และจะไม่รู้สึกถึงความโลภหลง
มี 741 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์